ถึงแม้ว่าซีรีส์เรื่อง Extraordinary Attorney Woo (อูยองอู ทนายอัจฉริยะ) อีกหนึ่งซีรีส์ที่สร้างความประทับใจให้กับคนดูอย่างล้นหลาม จะได้เดินทางมาถึงบทสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าซีรีส์เรื่องนี้ได้มอบทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ รอยน้ำตา หรือแม้กระทั่งความอบอุ่นหัวใจมาให้กับคนดูอยู่เสมอ จนซีรีส์เรื่องนี้ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งเรื่องในดวงใจของใครหลายคนทันที
และถ้าหากคุณยังไม่พร้อมจะโบกมือลาซีรีส์เรื่องนี้ไป หรือยังประทับใจกับเรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมา ตลอดจนความรักที่มีให้กับนักแสดงภายในซีรีส์ ยังคงเป็นเหตุผลของรอยยิ้มคุณอยู่ ในบทความคอลัมน์ Lists นี้ เรา Korseries จะมาชวนทุกคนดู 10 ซีรีส์ – ภาพยนตร์ที่ต้องตามเก็บ ถ้าหากคุณคือหนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบซีรีส์เรื่อง Extraordinary Attorney Woo และถ้าทุกคนพร้อมแล้วล่ะก็ เตรียมตัวหยิบสมุดและปากกามาจดซีรีส์และภาพยนตร์เหล่านี้เก็บเข้าลิสต์กันได้เลยค่ะ เพราะเรื่องที่เราคัดมามีทั้งเรื่องราวที่นำเสนอในโทนอบอุ่นหัวใจเหมือนกัน หรือเป็นผลงานก่อนหน้าของนักแสดงที่ตกหลุมรักจากเรื่องนี้ อย่าง พัคอึนบิน และ คังแทโอ ~
1. ซีรีส์ Move To Heaven (2021)
“เราจะเริ่มการขนย้ายครั้งสุดท้ายของคุณครับ”
Move To Heaven ซีรีส์อบอุ่นปนน้ำตาแห่งปี ที่จะทำให้เราเข้าใจความหมายของชีวิตมากยิ่งขึ้น และมองเห็นความสำคัญของ “เวลา” ที่เปรียบเสมือนสิ่งล้ำค่ามากที่สุด ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวของ ฮันกือรู (รับบทโดย ทังจุนซัง) เด็กหนุ่มวัย 20 ปีที่มีอาการแอสเพอร์เกอร์ และมีปัญหาการเข้าสังคม ซึ่งเขาอาศัยอยู่กับคุณพ่อเพียงแค่สองคน และทำงานที่บริษัทของคุณพ่อ ที่มีชื่อว่า “Move To Heaven” โดยรับหน้าที่เป็นพนักงานเก็บกวาดสถานที่เกิดเหตุหลังความตายเป็นครั้งสุดท้าย และเก็บกวาดของทุกชิ้นของผู้ตายบรรจุลงกล่องสีเหลือง พร้อมกับรับฟังเรื่องราวของคนเหล่านั้น ผ่านสิ่งของที่ยังหลงเหลือเอาไว้ในช่วงสุดท้ายของชีวิต เพื่อส่งมอบเรื่องราวและความทรงจำต่าง ๆ ให้กับครอบครัวและคนที่พวกเขารัก การดำเนินชีวิตของ ฮันกือรู ดูเหมือนจะเรียบง่ายในทุก ๆ วัน แต่ต้องมาสะดุดเมื่อคุณพ่อของ ฮันกือรู ได้จากไปอย่างกะทันหัน เขาจึงจำเป็นต้องอาศัยอยู่กับ โจซังกู (รับบทโดย อีเจฮุน) คุณอาที่มารับหน้าที่เป็นผู้ปกครองดูแลเขา ซึ่งจากเหตุการณ์นี้เอง ที่กำลังจะกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวอันแสนประทับใจ
สามารถรับชมซีรีส์ Move To Heaven ทั้ง 10 ตอนได้ทาง Netflix
2. ซีรีส์ It’s Okay to Not Be Okay (2020)
“เพราะทุกคนบนโลกใบนี้ ไม่มีมนุษย์คนใดจะสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์”
It’s Okay to Not Be Okay ซีรีส์ที่จะบอกว่า แม้จะไม่โอเค แต่ก็ไม่เป็นไร ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวของ มุนคังแท (รับบทโดย คิมซูฮยอน) เจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยจิตเวชประจำโรงพยาบาลจิตเวชรื่นรมย์ ซึ่งเขามีพี่ชายอยู่หนึ่งคนที่เป็นออทิสติกที่ต้องดูแล ชื่อว่า มุนซังแท (รับบทโดย โอจองเซ) ด้วยเหตุนี้เขาจึงกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวทันที หลังจากที่เขาและพี่ชายสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก และด้วยภาระหน้าที่ที่หนักหน่วง จึงทำให้เขากลายเป็นคนที่หลีกเลี่ยงการมีความรักมาโดยตลอด แต่แล้วเมื่อเขาได้มาเจอกับ โกมุนยอง (รับบทโดย ซอเยจี) นักเขียนหนังสือนิทานเด็กชื่อดัง ที่แท้จริงแล้วเธอเป็นโรคต่อต้านสังคม และด้วยแรงดึงดูดบางอย่าง จึงทำให้การพบกันของเขาและเธอในครั้งนั้น ได้นำมาสู่การเยียวยาบาดแผลภายในจิตใจซึ่งกันและกัน
สามารถรับชมซีรีส์ It’s Okay to Not Be Okay ทั้ง 16 ตอน ได้ทาง Netflix
3. ซีรีส์ Good Doctor (2013)
“แพทย์ที่เป็นออทิสติกจะสามารถรักษาคนไข้ได้จริงเหรอ?”
Good Doctor เป็นซีรีส์แนวการแพทย์ ว่าด้วยเรื่องราวของ พัคชีอน (รับบทโดย จูวอน) นายแพทย์หนุ่มที่มีอาการออทิสติก ซึ่งเขาได้เข้ามาทำงานอยู่ในแผนกกุมารเวชศาสตร์ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และถึงแม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์ทางการแพทย์ และมีใจรักในวิชาชีพมากแค่ไหน แต่เพราะอาการออทิสติกและปัญหาการเข้าสังคม จึงทำให้เขาต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว พร้อมกับต้องเจอคำสบประมาทต่าง ๆ มากมายจากคนรอบข้างว่าเขาไม่สามารถเป็นศัลยแพทย์ที่ดี และไม่สามารถรักษาคนไข้ได้จริง ๆ จนเขาได้มาเจอกับ ชายุนซอ (รับบทโดย มุนแชวอน) แพทย์สาวที่ทั้งสวยและจิตใจดี ที่คอยปกป้องเขาจากคำอคติของคนรอบข้าง ซึ่งจากเหตุการณ์นี้เอง จึงกลายมาเป็นแบบทดสอบที่ พัคชีอน จะต้องฟันฝ่ากับอุปสรรคต่าง ๆ มากมาย พร้อมกับพิสูจน์ว่าตนเองก็สามารถเป็นแพทย์ที่ดีได้
สามารถรับชมซีรีส์ Good Doctor ทั้ง 20 ตอน ได้ทาง Netflix และ Viu
4. ภาพยนตร์ Miracle in Cell No.7 (2013)
“ขอบคุณนะครับ ที่เกิดมาเป็นลูกพ่อ”
Miracle in Cell No.7 (ปาฏิหาริย์ห้องขังหมายเลข 7) ภาพยนตร์ที่จะมอบทั้งเสียงหัวเราะและรอยน้ำตา บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ ยงกู (รับบทโดย รยูซึงรยง) คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่มีอาการออทิสติก ซึ่งเขามีลูกสาวที่น่ารักอยู่หนึ่งคน ชื่อว่า เยซึง (รับบทโดย คัลโซวอน) ลูกสาวของเขาเปรียบเสมือนสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดในชีวิต เช่นเดียวกันกับลูกสาวที่มีคุณพ่อเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดในชีวิตเช่นกัน ทั้งสองอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขมาโดยตลอด แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่ออยู่มาวันหนึ่ง ยงกูถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากร และถูกจับในข้อหาข่มขืนและฆาตกรรมเด็กสาวคนหนึ่ง เขาจึงต้องเข้ามาอยู่ในห้องขังหมายเลข 7 และเป็นเหตุที่ทำให้เขาต้องพรากกับลูกสาวอันเป็นที่รัก เขาจึงขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ ในห้องขังเพื่อหาทางพาลูกสาวของเขาเข้ามาที่นี่ให้ได้ และเพื่อที่เขาจะได้ออกไปใช้ชีวิตอย่างอิสระกับลูกสาวอีกครั้ง เพื่อน ๆ ในห้องขังก็ต่างช่วยเหลือยงกู ด้วยการจะให้ปากคำในศาลตามความจริง แต่เพราะช่วงโหว่ของกฎหมายและอำนาจของผู้มีอิทธิพล ยงกูจึงกลายเป็นแพะรับบาป และถูกตัดสินให้รับโทษประหารชีวิต ทั้ง ๆ ที่เขาเองไม่ได้ทำความผิดอะไรเลย จนเมื่อระยะเวลาได้ล่วงเลยไป เยซึงเติบโตขึ้น และกลับมารื้อคดีนี้อีกครั้ง เพื่อลบล้างมลทินให้กับพ่อของเธอ
5. ภาพยนตร์ Innocent Witness (2019)
“เมื่อเด็กสาวออทิสติก ต้องมาเป็นพยานในคดีฆาตกรรม จะมีใครเชื่อเธอหรือไม่?”
Innocent Witness เป็นภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของ ยังซุนโฮ (รับบทโดย จองอูซอง) ทนายความวัย 46 ปี ที่อาศัยอยู่กับพ่อที่ป่วยเป็นโรคพาร์กินสันเพียงแค่สองคนในบ้านหลังเก่าเล็ก ๆ และด้วยหน้าที่ที่ต้องดูแลพ่อ ประกอบกับฐานะทางการเงินที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก เขาจึงใช้ชีวิตโสดมาโดยตลอด จนอยู่มาวันหนึ่งเขาได้รับมอบหมายให้ทำคดีบริการสังคม อย่าง “คดีฆาตกรรม” โดยมี แม่บ้านโอมีรัน (รับบทโดย ยอมฮเยรัน) เป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ ซึ่งเธอได้ให้การว่าเจ้านายของเธอฆ่าตัวตายเอง และเธอได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือแล้ว แต่ด้วยความตกใจและความตื่นตระหนก จึงทำให้เธอช่วยเหลือเจ้านายได้ไม่ทันการ ทนายยังซุนโฮจึงต้องสืบหาความจริง จนเขาได้มาเจอกับพยานคนสำคัญอย่าง อิมจีอู (รับบทโดย คิมฮยางกี) เด็กสาวออทิสติกวัย 15 ปี ที่อาศัยอยู่ฝั่งตรงข้ามของบ้านที่เกิดเหตุ โดยในคืนนั้นเอง เธอได้ยินเสียงดังออกมาจากบ้านหลังนั้น และรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอจึงกลายเป็นพยานเพียงหนึ่งเดียวของคดีนี้ ทนายยังซุนโฮจึงพยายามทำความรู้จัก และค่อย ๆ เข้าไปในโลกของอิมจีอู เพื่อให้เธอเปิดใจและยอมมาให้การในชั้นศาลให้ได้
Highlight : ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการเขียนบทของ นักเขียนบทมุนจีวอน ที่เขียนบทซีรีส์ Extraordinary Attorney Woo
6. ภาพยนตร์ Keys to the Heart (2018)
“เมื่อความแตกต่าง ไม่อาจทำลายความสัมพันธ์พี่น้องได้”
Keys to the Heart ภาพยนตร์คอมเมดี้-ดราม่า บอกเล่าเรื่องราวของ โจฮา (รับบทโดย อีบยองฮุน) อดีตนักมวยแชมป์เอเชียเวลเตอร์เวทของสภามวยโลก ที่ดูไปดูมาแล้วชีวิตของเขากำลังจะไปได้ด้วยดี แต่ปัจจุบันเขากลับกำลังตกอับและไม่มีที่ไป จนวันหนึ่งเขาได้มาเจอกับแม่โดยบังเอิญ แม่จึงชวนเขาไปอาศัยอยู่ด้วยกัน และถึงแม้ว่าเขาจะมีความทรงจำวัยเด็กอันแสนเจ็บปวดเกี่ยวกับแม่ แต่ด้วยความที่ไม่มีทางเลือก เขาจึงจะขออาศัยอยู่เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งจากเหตุการณ์นี้เอง จึงทำให้เขาได้มาเจอกับ จินแท (รับบทโดย พัคจองมิน) น้องชายต่างพ่อวัย 20 ปีที่เป็นออทิสติกระดับ 2 และมีพรสวรรค์ด้านการเล่นเปียโนเป็นเลิศ เมื่อครั้งที่ โจฮา เจอกับ จินแท ครั้งแรก เขารู้สึกไม่ค่อยพึงพอใจมากเท่าไหร่นัก แต่เพราะต้องมาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน อีกทั้งแม่ยังฝากให้เขาช่วยดูแลจินแทอีก เขาจึงค่อย ๆ เรียนรู้และทำความรู้จักกับจินแทมากขึ้น จนความสัมพันธ์ของสองพี่น้องเริ่มพัฒนากลายมาเป็นครอบครัวเดียวกันได้ในท้ายที่สุด
7. ซีรีส์ Do You Like Brahms? (2020)
“พรสวรรค์เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง แต่การมีความฝันคือพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่มากกว่า หากเรามีความพยายาม ก็จะประสบความสำเร็จได้”
Do You Like Brahms? เป็นซีรีส์เกี่ยวกับความรัก มิตรภาพ และความฝันของนักเรียนดนตรีคลาสสิก ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวของ แชซงอา (รับบทโดย พัคอึนบิน) นักเรียนที่จบการศึกษาจากสาขาบริหารธุรกิจ แต่ด้วยใจรักในการเล่นไวโอลิน จึงทำให้เธอได้ตัดสินใจสอบเข้าเรียนอีกครั้งในสาขาดนตรีคลาสสิก เอกไวโอลิน และถึงแม้ว่าการไล่ตามความฝันของเธอในครั้งนั้น จะไม่ได้สวยงามอย่างที่เธอคิด และกลับเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย แต่เธอก็ไม่เคยยอมแพ้และละทิ้งความฝันแต่อย่างใด จนอยู่มาวันหนึ่ง เธอได้มาเจอกับ พัคจุนยอง (รับบทโดย คิมมินแจ) นักเปียโนอัจฉริยะผู้ชนะการแข่งขันระดับนานาชาติมามากมาย ชีวิตของเขาดูเหมือนจะดำเนินไปได้อย่างสวยงาม แต่แท้จริงแล้วเขากลับเติบโตในครอบครัวที่ไม่ค่อยมีฐานะ และไม่มีกำลังมากพอในการสนับสนุนความฝันของเขา จึงทำให้เขาต้องล้มเลิกความฝันอยู่บ่อยครั้ง แต่โชคชะตาก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป เมื่อเขาได้รับทุนจากมูลนิธิวัฒนธรรมที่จะช่วยสานต่อความฝันของเขาได้ แต่เขาหารู้ไม่เลยว่าการเริ่มต้นเดินทางทำตามความฝันในครั้งนั้น จะทำให้เขาต้องพบเจอกับความโดดเดี่ยว ความผิดหวัง และรอยน้ำตา จนกระทั่งเขาได้มาเจอกับ แชซงอา ที่ได้เข้ามาทำให้เขายิ้มอย่างสดใสได้อีกครั้ง
สามารถรับชมซีรีส์ Do You Like Brahms? ทั้ง 16 ตอน ได้ทาง Netflix และ Viu
8. ซีรีส์ The King’s Affection (2021)
“จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อองค์รัชทายาทหญิง ต้องขึ้นเป็นกษัตริย์แทนฝาแฝดชายที่เพิ่งจากไป”
The King’s Affection (ราชันผู้งดงาม) เป็นซีรีส์แนวย้อนยุค-โรแมนติก บอกเล่าเรื่องราวของฝาแฝดชายหญิง ที่ในสมัยนั้นการถือกำเนิดลูกฝาแฝด จะนับเป็นสิ่งอัปมงคลและเป็นลางร้าย ซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว จึงมีพระบัญชาให้สั่งฆ่าพระธิดาทิ้งเสีย แต่พระมเหสีไม่อาจทำใจให้กับเรื่องเหล่านี้ จึงได้วางแผนเพื่อนำพระธิดาออกจากนอกวังนี้ไปก่อน จนกระทั่งเมื่อเวลาได้ผ่านพ้นไปนานหลายปี องค์รัชทายาทอีฮวี (รับบทโดย พัคอึนบิน) ฝาแฝดชายได้สิ้นพระชนม์ด้วยอาการประชวร ด้วยเหตุนี้พระมเหสีจึงมีคำสั่งให้พาแฝดองค์พระธิดากลับเข้าวังอีกครั้ง พร้อมให้เธอสวมรอยเป็นองค์รัชทายาทอีฮวี ที่กำลังจะขึ้นครองบัลลังก์เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป เธอจึงต้องคอยเก็บซ่อนความลับนี้ไม่ให้ผู้ใดในวังรู้เด็ดขาด แต่แล้วเมื่อเธอได้มาเจอกับ จองจีอุน (รับบทโดย โรอุน SF9) อาจารย์ขององค์รัชทายาทอีฮวี ชายหนุ่มรูปงามที่มีความกล้าหาญ และเป็นคนมองโลกในแง่ดี ด้วยความใกล้ชิดระหว่างเธอกับเขาที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ความรู้สึกที่เธอไม่อยากให้ใครรับรู้ ก็ดูเหมือนยากที่จะเก็บซ่อนไว้เช่นนี้ต่อไป
สามารถรับชมซีรีส์ The King’s Affection ทั้ง 20 ตอน ได้ทาง Netflix
9. ซีรีส์ The Tale of Nokdu (2019)
“เรื่องราวความรักได้เกิดขึ้น เมื่อเขาได้ปลอมตัวเป็นผู้หญิง เพื่อสืบหาความจริงบางอย่าง”
The Tale of Nokdu ซีรีส์แนวย้อนยุค-โรแมนติกคอมเมดี้ บอกเล่าเรื่องราวของ จอนนกดู (รับบทโดย จางดงยุน) ชายหนุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้และมีความฉลาดหลักแหลม เขาใช้ชีวิตอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ กับพ่อและพี่ชายบนเกาะที่อยู่ไกลแสนไกล จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งมีบุคคลปริศนาเข้ามาทำร้ายพ่อและพี่ชายของเขา ด้วยความสงสัยและอยากที่จะจับคนร้ายคนนั้นให้ได้ เขาจึงได้ไล่ตามคนร้ายคนนั้นไปและได้เดินทางมาถึง “หมู่บ้านแม่ม่าย” สถานที่ที่มีกฎห้ามชายใดเข้าไปเด็ดขาด แต่ด้วยความอยากสืบหาความจริงเกี่ยวกับคนร้ายคนนั้น เขาจึงได้ตัดสินใจปลอมตัวเป็นผู้หญิง เพื่อที่จะได้เข้าไปอยู่ในหมู่บ้านแม่ม่าย ในที่แห่งนั้นเองได้ทำให้เขาได้มาเจอกับ ดงดงจู (รับบทโดย คิมโซฮยอน) หญิงสาวผู้รักในความถูกต้องและตรงไปตรงมา ซึ่งเธอได้มารับรู้ทีหลังว่า จอนนกดู ไม่ใช่ผู้หญิงและได้รับรู้ถึงเหตุผลนั้น เธอจึงพยายามคอยช่วยเหลือ จอนนกดู มาโดยตลอด แต่แล้วความใกล้ชิดก็เป็นเหตุที่ทำให้พวกเขาทั้งสองเกิดความรู้สึกบางอย่างต่อกัน แต่ความสัมพันธ์ก็กลับซับซ้อนมากขึ้นไปอีก เมื่อ ยูลมู (รับบทโดย คังแทโอ) ชายหนุ่มรูปงามและสุภาพอ่อนโยน ผู้เป็นที่หมายปองของหญิงทั่วโชซอน ได้แอบรัก ดงดงจู ข้างเดียวมานานแสนนาน เรื่องราวรักสามเส้าจึงได้เริ่มต้นนับแต่นั้นเป็นต้นมา
สามารถรับชมซีรีส์ The Tale of Nokdu ทั้ง 16 ตอน ได้ทาง Netflix และ Viu
10. ซีรีส์ Run On (2020)
“ทำไมเราถึงต้องหกล้ม? ก็เพื่อเราจะได้เรียนรู้ที่จะลุกขึ้นมาเองยังไงล่ะ”
Run On (วิ่งนำรัก) ซีรีส์ที่จะบอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครทั้ง 4 ที่มีภูมิหลังแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ผ่านการถ่ายทอดโดย คีซอนกยอม (รับบทโดย อิมชีวาน) อดีตนักกรีฑาทีมชาติดาวเด่น ที่ได้ผันตัวมาเป็นเอเย่นต์นักกีฬา หลังจากที่เขาพบเจอเหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งนั่นจึงทำให้เขาได้มาเจอกับ โอมีจู (รับบทโดย ชินเซคยอง) นักแปลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศ ที่จะเข้ามาทำให้เขาได้พบเจอกับโลกใบใหม่ และแน่นอนว่าการพบกันในครั้งนั้น ก็ได้ทำให้เธอทำลายกำแพงบางอย่างในใจด้วยเช่นกัน ในขณะเดียวกันทางด้านของ ซอดันอา (รับบทโดย ซูยอง SNSD) ซีอีโอสาวประจำบริษัทเอเจนซี่ด้านกีฬา เธอเป็นทายาทเพียงหนึ่งเดียวของซอมยองกรุ๊ป แต่เหตุเพราะเธอเป็นผู้หญิง จึงทำให้เธอถูกกีดกันออกจากตำแหน่งผู้สืบทอดซอมยองกรุ๊ปทันที เธอจึงพยายามต่อสู้เพื่อทวงคืนทุกอย่างที่เป็นของเธอกลับมา และในขณะที่เธอกำลังใช้ชีวิตในการแข่งขัน เธอก็ได้มาเจอกับ อียองฮวา (รับบทโดย คังแทโอ) นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกศิลปะ ชายหนุ่มน่ารักสดใสที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เกินต้านทาน ได้เข้ามาเติมแต่งสีสันของเธอให้กลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้งหนึ่ง และก็ดูเหมือนว่า อียองฮวา เองก็สนใจในตัวเธอเช่นเดียวกัน
สามารถรับชมซีรีส์ Run On ทั้ง 16 ตอน ได้ทาง Netflix
จบลงไปแล้วสำหรับ 10 ซีรีส์ – ภาพยนตร์ที่เรา Korseries อยากจะพาทุกคนตามเก็บเรื่องเหล่านี้ไปด้วยกัน ทั้งผสมผสานไปด้วยเรื่องราวที่จะทำให้ทุกคนรู้จักคนที่มีอาการของออทิสติกมากยิ่งขึ้น หรือเรื่องราวอบอุ่นหัวใจที่แฝงไปด้วยข้อคิดและกำลังใจมากมาย และเราหวังว่าเรื่องราวเหล่านี้จะเป็นอีกหนึ่งในเรื่องโปรดของทุกคนเช่นกันนะคะ อย่าลืมจดลงลิสต์และไปตามเก็บกันได้เลยค่ะ 💖
BONUS !!!
สำหรับใครที่ชื่นชอบและตกหลุมรักนักแสดงนำหลักของเรื่อง Extraordinary Attorney Woo อย่าง พัคอึนบิน – คังแทโอ แล้วอยากจะเห็นในมุมอื่น ๆ ของพวกเขาทั้งสอง นอกเหนือจากบทบาทของนักแสดงแล้วนั้น เราอยากจะพาทุกคนไปร่วมสำรวจมุมน่ารัก ๆ ที่ต้องขอบอกก่อนเลยว่าพวกเขาทั้งสอง ไม่ได้มีดีแค่ทักษะการแสดงที่ยอดเยี่ยมอย่างเดียวเท่านั้น แต่เซนส์วาไรตี้ของทั้งคู่ก็ดีมาก ๆ เช่นกัน จนสามารถมัดใจคนไปได้อย่างมากมายด้วยความเป็นธรรมชาติ และความเป็นตัวของตัวเองของพวกเขาทั้งคู่ เรียกได้ว่าถ้าหากทุกคนได้เห็นในมุมน่ารัก ๆ ของทั้งคู่นี้แล้ว คงต้องเผลอหลุดยิ้มออกมาอย่างแน่นอน
ซึ่งรายการที่เราจะมาแนะนำเพิ่มเติม ก็คงหนีไม่พ้นรายการวาไรตี้ยอดนิยม อย่าง Running Man แน่นอน ซึ่งทั้ง พัคอึนบิน และ คังแทโอ เคยเป็นหนึ่งในแขกรับเชิญของรายการนี้มาก่อน และทุก ๆ ครั้งที่พวกเขาทั้งคู่ได้รับเชิญ ก็มักจะสร้างเสียงหัวเราะให้กับสมาชิกของรายการ และผู้ชมไปได้อย่างล้นหลามเช่นกัน
สำหรับนักแสดงหนุ่ม คังแทโอ เขาเคยมาเป็นแขกรับเชิญ Running Man ถึง 2 รอบด้วยกัน !! และเคยสร้างตำนานท่าเต้นประจำตัวสุดฮามาก่อน จนทำเอาสมาชิกของรายการหัวเราะจนปวดท้องไปตาม ๆ กัน ซึ่งตอนที่ คังแทโอ ไปเป็นแขกรับเชิญ มีทั้งหมด 3 ตอน ไม่ว่าจะเป็น EP.483, 484 และ 493
สามารถรับชม Running Man Ep.483, 484 และ 493 ได้ทาง Viu
ทางด้านของนักแสดงสาว พัคอึนบิน เธอเคยมาเป็นแขกรับเชิญทั้งหมด 1 รอบด้วยกัน ซึ่งในครั้งนั้นเธอมาพร้อมกับเพื่อน ๆ นักแสดงจาก Do You Like Brahms? เพื่อมาโปรโมตซีรีส์เรื่องข้างต้นใน EP.518 แต่ต้องขอบอกก่อนเลยว่าภายในรายการ เธอได้โชว์ความน่ารักออกมาได้อย่างสดใสสุด ๆ ซึ่งถ้าหากทุกคนดูจบแล้ว เชื่อเลยว่าจะต้องเอ็นดู พัคอึนบิน มากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
สามารถรับชม Running Man Ep.518 ได้ทาง Viu
บทความที่เกี่ยวข้อง
รวมผลงานซีรีส์หลากรสชาติของ ‘พัคอึนบิน’ นักแสดงสาวมากบทบาทที่ไม่ว่าจะบทไหนก็เอาอยู่ !
Extraordinary Attorney Woo แง้มแพลนผลิตซีซั่น 2 ⋯ ลุ้นพิจารณาสานต่อเรื่องราวของอูยองอู
เอ็นดูหนักมาก! พัคอึนบิน กับท่าประจำแสนน่ารัก หลังถ่ายซีรีส์จบแต่ละเรื่อง
คังแทโอ โชว์ลีลาปาลูกเบสบอลดีต่อใจ เปิดสนามการแข่งขันกีฬา พร้อมบอลลูนวาฬยักษ์ปรากฏกลางสนาม
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡
