ใครจะคิดว่า รักครั้งแรกสมัยมัธยมที่ให้ฟิลสนุกๆไร้เดียงสา
จะปลุกเอเนอร์จี้ ขับเคลื่อนความฝัน พบเส้นทางเติบโต
ใครจะคิดว่า สิ่งนั้นในความทรงจำสิบห้าปี มีความหมายมากกว่าความรัก

ต้นกำเนิดของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นนวนิยายไต้หวัน (ที่มีชื่อแปลตามตัวอักษรได้ว่า The Girl We Chased Together in Those Years) เป็นนิยายแนวกึ่งอัตชีวิตประวัติ ที่ถูกนำมาผลิตเป็นหนังไต้หวันในปี 2011 ญี่ปุ่นรีเมคปี 2018 และไทยก็รีเมคด้วยในปี 2023 จนมาสู่เวอร์ชันเกาหลีปี 2025 โดยใช้ชื่อเดียวกับไต้หวันและญี่ปุ่นว่า You Are the Apple of My Eye และใช้ชื่อไทยว่า รักเรา ยังจำได้ไหม ในเกาหลีเอง แม้จะไม่ได้ดังเปรี้ยงกวาดยอดขายเหมือนงานต้นฉบับไต้หวัน แต่ก็ทำรายได้ผ่านจุดคุ้มทุนฉลุยเลย
พล็อตของ ‘ความรักครั้งแรก’ ที่เกิดขึ้นในช่วงชีวิตวัยสนุกวุ่นๆของเด็กมัธยมในยุคปี 2002 ให้ติดตามการดำเนินไปของความสัมพันธ์อันซับซ้อนยากจะเข้าใจ แต่ต่างตรึงใจกันมานานถึง 15 ปีอย่างมีความหมาย ที่เป็นมากกว่าความรัก โดยเล่าผ่านบทบรรยายของตัวละครหลัก คือ กูจินอู (รับบทโดย จินยอง)
ในตอนที่กูจินอูเรียนอยู่ห้อง ม.5 อย่างสนุกไปวันๆเยี่ยงเด็กไม่ยอมโต ร่วมกับแก๊งเพื่อนต่างบุคลิกขำๆ คือ เจ้าอ้วนดงฮยอน บยอนกับช้างน้อยยืนตรง บยองจูจอมขี้เซาสายเสมอ และอันซองบินผู้เป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าใครๆ ส่วนจินอูคือผู้ที่ไม่มีฝันอะไรจึงปล่อยตัวชิลไปเรื่อยๆ ไม่คิดใส่ใจเรียน
หัวหน้าห้องซึ่งเป็นนักเรียนตัวอย่าง ทั้งเก่ง สวย ช่างคิด มุ่งมั่น ตั้งใจเรียน คือ โอซอนอา (รับบทโดย ดาฮยอน) เพื่อนทั้งสี่ของจินอูต่างปิ๊งเธอ ตรงข้ามกับจินอูที่ยืนกรานไม่สนใจ แต่ไปๆมาๆเขาก็ถูกครูสั่งย้ายมานั่งใกล้เธอ เขาได้หยิบยื่นความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ เช่นยกหนังสือให้เธอแล้วยอมถูกทำโทษแทนว่าลืมเอาหนังสือมา ไหนๆเขาก็เป็นขาประจำที่คุ้นชินการถูกทำโทษอยู่แล้ว จึงเปลี่ยนใจซอนอาจากที่เคยรู้สึกรำคาญเขาในตอนแรกๆ
ซอนอาคิดตอบแทนเขาด้วยการช่วยให้เขาเรียนดีขึ้น และเชื่อว่าจินอูทำได้ เช่นเดียวกับที่จินอูเองก็ชอบโม้ว่าตัวเองมีฝีมือแค่ไม่อยากทำเท่านั้นเอง ความตั้งใจเคี่ยวเข็ญของซอนอาได้ผล จินอูขยันและเรียนได้ดีขึ้นจริงๆ รวมถึงความสัมพันธ์ทางใจที่มีต่อกันมากขึ้น
แต่แล้วในการสอบซูนึงเข้ามหาวิทยาลัย ซอนอาเกิดทำพลาดจนไม่ได้ที่เรียนในโซล และเพื่อนๆก็แยกย้ายได้ที่เรียนไปตามจังหวัดต่างๆ ชีวิตที่ต่างเริ่มเดินไปตามเส้นทางความคิดของตัวเอง รวมถึงสถานการณ์ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของจินอูกับซอนอาต้องเผชิญความซับซ้อนทางจิตใจ อารมณ์มากขึ้น ให้ตามดูการเป็นไปของพวกเขาว่าจะลงเอยอย่างไร
ก็ไม่รู้ว่าเพราะเป็นงานรีเมคท้ายๆที่ยังยึดต้นฉบับไว้เยอะ การดูซ้ำหลายทีทำให้หนังจืดไปหรือไม่ (มุกขำก็คงจำเจไปแล้ว) แถมยังแอบคิดว่าเวอร์ชันเกาหลีเหมือนตั้งใจทำมาให้ดูสบายๆ ไม่บีบคั้นนัก หรือจะเป็นเพราะความลำเอียงส่วนตัวที่มองจินยองและดาฮยอนในความน่ารักสดใส เฟรนลี่ ดูดี สะอาดสะอ้านตา ในขณะที่ตัวละครของจีนให้ความกากๆเกรียนๆ ทะลึ่งตึงตัง ล่อแหลมโฉ่งฉ่าง พอเข้าบทหวานอมขมกลืนก็ดูจะเข้มข้นลึกซึ้งกว่า หรือเวอร์ชันญี่ปุ่นที่หน้าตาเฮี้ยวนำ แต่รวมๆทีมนักแสดงดูไม่ค่อยอินหรือฟินนัก (ส่วนของไทยไม่ได้ดู เลยไม่มีให้เทียบ) ทั้งนี้ สำหรับใครที่ไม่เคยดูเวอร์ชันใดๆมาก่อน ก็เป็นไปได้ว่าอาจยังไม่ว้าวก็ได้ เพราะพล็อตรักแรกในวัยเรียนไม่ใช่เรื่องใหม่ แม้จะได้บทจบที่ดูน่าคิดอยู่บ้าง เอาว่าเบื้องต้น ถ้าเอ็นดูพระนางก็ต้องดู ถ้าชอบงานแนวชวนโหยหาความทรงจำในอดีตก็ต้องดูค่ะ
อีกประเด็นที่อาจเป็นมุมมองส่วนตัวที่ผู้เขียนเพิ่งดูจินยองในซีรีส์ Who is She จบไปเร็วๆนี้ ติดตากับบทเป็นซีอีโอ พอเปลี่ยนฉับกลับมาเป็นนักเรียน ก็เลยยังขัดอยู่ สำหรับดาฮยอนดูเลอค่าน่าไขว่คว้า ขนาดเล่นเรียบๆไปนิดนะ (เพราะเพิ่งเดบิวต์) เหล่าเพื่อนๆเลยได้แย่งซีนกันไปเยอะเลย
แต่ผู้ที่ขโมยซีนได้เด็ดสุดคือ คู่พ่อแม่ของจินอู ที่รับเชิญมาโดยคู่ชีวิตจริงๆ พัคซองอุงกับชินอึนจอง เรียกว่า ทุกฉากที่มีพัคซองอุงคือขำเลยค่ะ คอสตูมก็ไม่เปลืองด้วย 555 นอกจากนี้ก็สะดุดตากับความหล่อของ ซนอูฮยอน บทรับเชิญช่วงท้ายที่มาช่วยกันเรียกเสียงฮาได้ดี
ว่าโดยเนื้อหาแล้ว ก็จัดเป็นหนังน้ำดี มุมของแรกรักวัยเรียนที่ทำให้พวกเขาจะได้เรียนรู้และมาถึงจุดที่ตัดสินใจอย่างคนที่โตแล้ว แต่ไม่ว่าจะสมหวังหรือผิดหวัง รักนี้คือการสร้างประสบการณ์ที่มีค่าต่อมิตรภาพ การค้นหาตัวตน การพบเจอความฝัน อีกทั้งการปิดเกมให้ sad และ happy อยู่ร่วมกันได้กลมกลืน ก็คือตัวชี้ให้เห็นการเติบโตก้าวพ้นวัยของพวกเขาได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
โบนัสแถมท้ายเป็นเพลงเพราะๆร้องคู่จากจินยองและดาฮยอน ซึ่งร่วมแต่งเนื้อร้องเองด้วยค่ะ
Trailer :