เมื่อสิ่งที่คนตาบอดไม่สมควรได้เห็น เมื่อสิ่งที่คนต่ำต้อยไม่บังควรรับรู้
เมื่อความลับดำมืดต้องอาศัยดวงตาเที่ยงธรรมมองเห็น และใช้ใจที่เปิดกว้างสว่างกว่าดวงตาเข้าถึง
เช่นนั้นแล้ว หมอตาบอดผู้ต่ำต้อยจะเลือกทำเช่นไรกับสิ่งที่เขา ‘มองเห็น’
‘ไม่นานหลังจากองค์รัชทายาทเดินทางกลับสู่โชซอน
บันทึกจดหมายเหตุในราชวงศ์โชซอน ปี 1945 วันที่ 27 มิถุนายน
ก็ล้มป่วยและสิ้นพระชนม์ด้วยอาการเลือดออกทวารทั้งเจ็ดบนใบหน้า อันดูเป็นผลจากยาพิษ’
ภาพในความมืดลางเลือน ชายหนุ่มคนหนึ่งแบกเด็กชายราชนิกูลวัย 10 ขวบในชุดนอนที่สลบไสล วิ่งหอบมาจนเปิดประตูบานใหญ่สู่ลานกว้างหน้าวังในช่วงเวลาที่ฟ้าสางพอดี แต่กลับมองไม่เห็นสิ่งใดเลยในความสว่างวาบเข้าตานั้น…
นั่นคือฉากท้ายของเรื่องราวที่เริ่มต้นมาจากหนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น หมอฝังเข็มฝีมือดีแต่ตาบอด ชอนคยองซู (รับบทโดย รยูจุนยอล) ที่คิดอยากสอบเป็นหมอหลวงในวังเพื่อฐานะที่ดีขึ้น เพื่อให้มีเงินซื้อยารักษาโรคหัวใจของน้องชายวัยสิบขวบ โดยมีหัวหน้าสำนักหมอหลวง อีฮยองอิก (รับบทโดย ชเวมูซอง) มาทำการทดสอบภาคปฏิบัติให้เหล่าหมอ ๆ ที่อยากเข้าสอบได้วินิจฉัยคนไข้จริง
รับชม The Night Owl ซับไทยได้ที่ VIU
แม้ว่าหมอคยองซูจะไม่ได้จับชีพจร แต่ก็ระบุอาการเจ็บป่วยได้ เพราะประสาทสัมผัสอื่นของเขาดีเยี่ยม ทำให้มีวิธีการวินิจฉัยที่แตกต่าง ทั้งมีหลักการและแม่นยำแถมยังฝังเข็มรักษาอาการได้ผลด้วย หมอคยองซูจึงสอบผ่านได้เข้าไปฝึกงานขั้นต้นในสำนักหมอหลวงหนึ่งเดือนเต็ม โดยมีพี่เลี้ยงเป็น หมอมันชิก (รับบทโดย พัคมยองฮุน) ซึ่งออกจะเงอะงะไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวนักและแอบอู้บ้าง (ตัวฮายืนหนึ่งของเรื่อง) แต่เขาก็ดีกับคยองซูมากกว่าใคร ๆ ในนั้น ซึ่งมักอคติในความพิการตาบอดและความเป็นหมอฝึกหัดใหม่
ความลับสำคัญที่คยองชูไม่เคยเผยให้ใคร ๆ ล่วงรู้ก็คือ เขาสามารถมองเห็นได้ในที่มืด อันจะนำมาซึ่งการรับรู้อะไร ๆ มากเกินความเป็นคนตาบอด และน่าจะมากเกินควรสำหรับคนตาดีด้วยซ้ำ อาทิเช่น ได้เข้าถึงตัว สนมโจ (รับบทโดย อันอึนจิน) พระสนมคนโปรดของ พระเจ้าอินโจ (รับบทโดย ยูแฮจิน) เพื่อทำการฝังเข็มรักษาอาการปวดท้องน้อยแทนหมอหญิง หรือได้เห็น องค์ชายอีซอกชอล (รับบทโดย อีจูวอน) โอรสขององค์รัชทายาทโชซอน ซึ่งมีอาการคุมการถ่ายเบาไม่ได้แม้จะเจริญสิบชันษาแล้วก็ตาม เพราะมีปมทางจิตใจ
ในตอนนั้นที่ขบวนฑูตราชวงศ์ชิงได้นำ องค์รัชทายาทโซฮยอน (รับบทโดย คิมซองชอล) และ พระชายาคังบิน (รับบทโดย โจยุนซอ) เดินทางกลับโชซอนหลังจากไปเป็นองค์ประกันอยู่ที่เสิ่นหยางนานถึง 8 ปี จากคราวที่โชซอนพ่ายศึกอัปยศถึงขั้นบีบให้พระเจ้าอินโจต้องยอมศิโรราบ โขกพระเศียรคำนับจักรพรรดิ์หวงไท่จี๋
ทว่า คงมีเพียง องค์ชายซอกชอล ผู้เดียวที่ตื่นเต้นยินดีกับการได้พบพ่อแม่ที่โหยหามานาน ส่วน สนมโจ นั้นขัดเคืองแน่นอนเพราะพระนางหวังให้โอรสของตนได้ขึ้นเป็นรัชทายาท ด้าน พระเจ้าอินโจ ซึ่งมีความคับแค้นใจเป็นทุน เกลียดชังเหยียดหยามชิงเป็นอนารยชนคนป่าเถื่อน แต่ก็ไม่สามารถโต้ตอบใดได้ การกลับมาขององค์โซฮยอนกับฑูตจึงกระตุกปมเจ็บปวดป่วยกายป่วยจิตขึ้นมาอีกครั้ง แสดงความยินดีไม่ออก ยิ่งเห็นองค์โซฮยอนเปลี่ยนไปแล้วด้วยยิ่งแล้วใหญ่
องค์รัชทายาทโซฮยอนที่เรียนรู้ว่าราชวงศ์หมิงซึ่งโชซอนเคยยึดถือนั้นไร้อำนาจแล้วจริง ๆ มีแต่ราชวงศ์ชิงที่เจริญทั้งการค้า วิทยาการ อารยธรรม เพราะมีเส้นทางสายไหมเชื่อมโลกตะวันตก นอกจากองค์รัชทายาทจะเรียนรู้ภาษาแมนจูแล้ว ก็ยังได้เรียนรู้วิทยาการตะวันตกผ่านเหล่ามิชชันนารีด้วย เรียกว่ามีหัวก้าวหน้าทันสมัยเกินใคร ๆ ในโชซอน และยังเติบโตทางความคิด ไม่อยากให้บิดาหมกมุ่นกับความแค้นในอดีต อยากให้เปิดใจมองความเจริญไปข้างหน้าของประเทศเป็นสำคัญ โดยใช้ประโยชน์จากการเป็นมิตรกับราชวงศ์ชิง นั่นยิ่งทำให้พระเจ้าอินโจทั้งขุ่นเคืองและหวาดระแวงหนักไปอีก มองว่าโอรสได้ถูกล้างสมองเสียสติไปแล้ว!
ข้างฝ่าย มหาเสนาบดีชเว (รับบทโดย โจซองฮา) ผู้เชื่อมั่นว่าตัวเองเป็น King Maker ก็วางแผนฟันธงว่าสมควรสนับสนุนองค์รัชทายาทขึ้นเป็นกษัตริย์เพื่อประโยชน์ทางการเมือง แต่ถ้าหนุนไม่ขึ้นเพราะไม่ขานรับ ก็พร้อมจะกรุยทางเองให้เกิดอย่างที่ต้องการให้จงได้
องค์รัชทายาทที่กลับมาด้วยสุขภาพไม่ค่อยดีนัก ไอบ่อย ทำให้ หมอคยองซู มีโอกาสได้รับใช้ใกล้ชิด และกลายเป็นอีกหนึ่งคนที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน การรักษาที่ดูจะดีขึ้นแล้ว แต่จู่ ๆ กลับทรุดหนักด้วยไข้มาลาเรียในคืนหนึ่ง หัวหน้าหมออีฮยองอิก รีบพาคยองซูรุดไปถวายการรักษากลางดึก และเรื่องสุดช็อคก็เกิดขึ้นในคืนนั้น ที่ทำให้คยองซูต้องตัดสินใจทำเรื่องระทึกอุกอาจเกินสถานะ เหตุการณ์วิกฤติที่เกินคาดคิดทำชีวิตเขาพลิกผันสู่ห้วงอันตรายยิ่ง…!
ต้องยกนิ้วให้กับเกาหลีที่มักหยิบจับเสี้ยวประวัติศาสตร์มาแต่งเติม เสริมต่อเรื่องสนุก ๆ เข้าไปอย่างกลมกลืน แม้จะรู้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์มาบ้างแล้วก็ยังสามารถดูสนุกได้อยู่ ความสดใหม่จากการวางตัวเอกเป็นคนตาบอด ถ่ายทอดพล็อตทริลเลอร์ที่เกิดกับตัวละครซึ่งเป็นเบี้ยล่างทั้งสภาพร่างกายและสถานะ แต่ก็ยังมีข้อได้เปรียบให้ชวนลุ้นชวนเชียร์ตามคอนเซ็ปต์ของชื่อเรื่อง The Night Owl คือ เป็นเยี่ยงนกเค้า (นกฮูก) ที่มีช่วงเวลากลางคืนโดดเด่นกว่ากลางวัน ทั้งดวงตาที่หมุนได้เกือบรอบทิศ เฉียบทั้งสายตาและความไวของประสาทสัมผัสอื่น เกินกว่าที่คนจะนึกถึง และเพราะตัวเอกตาบอด ผลพลอยได้ของงานภาพและงานเสียงที่ปราณีตละเอียดอ่อนเต็มคุณภาพจึงมีให้เสพกันอย่างดื่มด่ำเลย
การผูกบทที่ไม่ได้ซับซ้อนนักด้วยการเดินเรื่องที่ค่อยเป็นค่อยไป แต่จังหวะน่าติดตามมาก ใคร่รู้ ตื่นเต้น ระทึก มีจุดพีคแล้วพีคได้อีก มีการหักมุมที่คาดไม่ถึง บทคมคายในการเล่นกับ ‘การมองเห็น’ ที่กินความไปถึงการมองเห็นความจริง ดังนั้นคนตาบอดที่มีใจเที่ยงธรรมย่อมเป็นเลิศกว่าคนตาดีที่ปิดหูปิดตาไม่รู้ไม่เห็นอย่างแน่นอน รวมถึงการสอดแทรกตรรกะสุขภาพเรื่องจิตเป็นนายกายเป็นบ่าวอยู่เล็ก ๆ แต่ไม่ได้มีศัพท์แสงหรือเทคนิคทางการแพทย์ใด ๆ มาให้ปวดหัวแม้จะเป็นงานอาชีพหมอก็ตาม
ไฮไลท์ของการประโคมความสนุกระลึกลุ้นต้องขอยกให้งาน Cinematography ที่พิถีพิถันได้คุณภาพงานศิลป์ดีเลิศ งานซาวน์มีเสน่ห์มาก ได้ฟิลได้จังหวะ แทนอารมณ์และสิ่งที่คยองซูได้ยินอย่างเนี๊ยบมาก อย่างกับเราเป็นคยองซูซะเองเลย งานภาพก็เช่นกัน แทนสายตาคยองซูได้สมจริง แม้ฉากที่ภาพไม่ชัดนักในความมืด ก็ยังมีมุมกล้องและเฉดโทนที่สวยศิลป์เลย เสียดายยิ่งที่เรื่องนี้ไม่มีค่ายหนังซื้อมาฉายในโรง จินตนาการว่าถ้าได้ดูในโรงนี่ต้องดื่มด่ำอินอารมณ์มากเลย
สำหรับนักแสดง ยูแฮจิน ยกความเชื่อมั่นให้อยู่แล้วว่าจะตีบทแน่นอนในทุกมู้ด แต่สำหรับ รยูจุนยอล นั้น อาจเรียกได้ว่าเป็นผลงานใหม่ ๆ ที่เขาได้โชว์ฝีมือที่ละเอียดลึกซึ้งขึ้น ถ่ายทอดทั้งอากัปกิริยาและอารมณ์ได้ดีจริง ๆ เกินความคาดหมาย
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่สนับสนุนความเป็นหนังดีควรค่าแก่การชม คือเป็นหนังที่ทำรายได้ติดอันดับ Top Box Office อันดับสามของปี มียอดตั๋วทะลุ 3 ล้านใบ และมีดีกรีรางวัลจากหลายเวทีทั้งในสาขาภาพยนตร์ดีเด่น, ผู้กำกับหน้าใหม่, งาน Cinematography และนักแสดงนำยอดเยี่ยม หลังจากรอคอยซับไทยมานานข้ามปี ตอนนี้มีให้ดูแล้วที่ VIU ค่ะ หวังว่าทุกท่านที่สนใจจะได้รับชมและเต็มอิ่มกับหนังเรื่องนี้เช่นเดียวกันนะคะ
Trailer :
ติดตามบทความรีวิวอื่นๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่ เพจมูฟวีข้ามวันซีรีส์ข้ามคืน
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡
