เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ได้ดู Extraordinary Attorney Woo Ep.9 อีพีที่พูดถึงเคสคดีการล่อลวงผู้เยาว์ ที่ได้นักแสดงอย่าง คูคโยฮวาน มาเป็นนักแสดงรับเชิญ จะต้องตราตรึงใจกับฉากการขึ้นศาลของอูยองอูอย่างแน่นอน เพราะในอีพีนี้วาฬที่ปกติจะว่ายอยู่รอบตึก ว่ายอยู่ข้าง ๆ รถไฟฟ้า กลับเข้ามาแหวกหว่ายถึงภายในศาลอย่างยิ่งใหญ่กันเลยทีเดียว! และยังน่าสนใจเพิ่มขึ้นไปอีกตรงที่วาฬในครั้งนี้ไม่ใช่วาฬบรูดา (Bryde’s whale) อย่างที่เราคุ้นเคยกันในหลาย ๆ อีพี แต่กลับเป็น วาฬเพชฌฆาต (Killer Whales) แทนนั่นเอง ซึ่งการปรากฏตัวของวาฬเพชฆาตในซีรีส์นั้นไม่ได้ใส่เข้ามาเพื่อความยิ่งใหญ่เฉย ๆ แต่ว่ามีเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ในนั้น และสามารถเชื่อมโยงเข้ากับเรื่องราวของเด็ก ๆ ที่ขาดอิสรภาพจากระบบการศึกษาที่แสนกดดัน จึงเป็นที่มาของบทความล่าสุดในคอลัมน์ FOCUS ของ Korseries ที่เราจะชวนทุกคนมาทำความเข้าใจการสื่อความหมายของฉากนี้ให้แจ่มแจ้งยิ่งขึ้น
เจ้าวาฬเพชฌฆาตในอีพีนี้ หากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าครีบหลังของมันมีลักษณะพับงอลง ผิดปกติไปจากวาฬเพชฌฆาตทั่ว ๆไปในท้องทะเลที่ครีบหลังจะตั้งตรงสวยงาม นั่นเป็นเพราะครีบที่มีหน้าที่ทรงตัวสำหรับว่ายน้ำ และมีหน้าที่ขจัดความร้อนส่วนเกินในระหว่างที่วาฬกำลังใช้กำลังอย่างรุนแรง แต่เมื่อวาฬถูกกักขังอยู่แต่ในอควาเรียมแคบ ๆ แทบจะตลอดชีวิต ต้องว่ายวนอยู่แต่ในกรงเหล็กที่แทบจะพอดีตัวของมัน ไม่ได้ใช้สัญชาตญาณนักล่าและเอาตัวรอดตามธรรมชาติในแบบที่ควรจะเป็น ครีบหลังที่ไม่ได้ใช้งานก็จะค่อย ๆ พับโค้งงอลงอย่างเห็นได้ชัด
วาฬเพชฌฆาตที่ถูกขังถึง 33 ปี ‘ทิลลิคัม (Tillikum)’
วาฬเพชฌฆาตที่หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักอย่างเจ้า ‘ทิลลิคัม (Tillikum) หรือทิลลี่’ วาฬเพชฌฆาตเพศผู้ที่ถูกจับมาจากแอตแลนติกเหนือ ตั้งแต่อายุได้เพียง 2 ปี มันถูกจับมาขังไว้ในสวนน้ำ Sealand of the Pacific ประเทศแคนาดา เพื่อจัดแสดง ก่อนที่จะถูกขายให้กับ SeaWorld ในภายหลัง เมื่อมาถึงมันก็ถูกปล่อยลงในสระร่วมกับวาฬเพศเมียที่โตเต็มวัยแล้วอีก 2 ตัวทันที นั่นทำให้ทิลลิคัมถูกทำร้ายจากวาฬอีก 2 ตัวอยู่เสมอ จนผู้ดูแลต้องจับขังแยกซึ่งสถานที่ที่มันถูกขังแยกไว้ในตอนกลางคืนที่มืดมิดก็คือสระเหล็กที่มีขนาดความกว้างเพียง 6 เมตร และลึกเพียง 9 เมตร เท่านั้น
นานวันเข้าเจ้าทิลลิคัมก็เริ่มมีอาการทางจิต ที่ส่งผลให้เริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าวกับมนุษย์และวาฬพวกเดียวกันเองผิดปกติวิสัยของวาฬเพชฌฆาตทั่วไปในธรรมชาติ จนมันคร่าชีวิตมนุษย์ไปถึง 3 คนด้วยกัน คือเด็กฝึกงานสาว เคลที เบิร์น, แดเนียล ดุ๊กส์ นักโทษที่เพิ่งออกจากเรือนจำที่แอบเข้ามาในสวนน้ำ และ เทรนเนอร์สาว ดอน แบรนโชว์ ซึ่งการกระทำของมันเป็นเหมือนการบ่งบอกให้มนุษย์ได้เริ่มตระหนักรู้ถึงการต้องหยุดคุกคามและทารุณสัตว์เพียงเพื่อตอบสนองความบันเทิงชั่วคราวของตัวเอง ซึ่งเรื่องราวของทิลลิคัมได้ถูกนำไปทำสารคดีชุด แบล็คฟิช วาฬเพชฌฆาต หรือ BLACKFISH บน Netflix ด้วย
โดยเจ้าทิลิกัมต้องทนทุกข์อยู่ในสวนน้ำแคบ ๆ นานถึง 33 ปี โดยมันได้รับอิสรภาพจากการที่มัน ‘เสียชีวิต’ จากการติดเชื้อแบคทีเรีย นั่นเอง
วาฬเพชฌฆาตชื่อดัง ‘เคย์โกะ (keiko)’ จากภาพยนตร์ Free Willy
วาฬตัวที่ 2 ที่จะพามาทำความรู้จักคือเจ้าเคย์โกะ (keiko) วาฬชื่อดังจากภาพยนตร์ Free Willy ภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเด็กน้อยคนหนึ่งกับปลาวาฬเพชฌฆาตที่ถูกกักขังไว้ในสวนน้ำ
เคย์โกะ (keiko) ถูกจับครั้งแรกที่ชายฝั่งบริเวณเกาะไอซ์แลนด์ในปี 1976 ขณะอายุได้ประมาณ 2 ปี โดยเคย์โกะมีอาการของโรคผิวหนังซึ่งเกิดจากการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมเป็นระยะเวลานานและไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพราะเคย์โกะถูกย้ายสถานที่จัดแสดงไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายมันก็ได้ลงหลักปักฐานที่สวนสนุก Reino Aventura ประเทศเม็กซิโก และได้รับเลือกให้เข้าแสดงเป็นตัวหลักในภาพยนตร์ Free Willy ในเวลาถัดมา
ซึ่งหลังภาพยนตร์ได้ออกฉายก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงจนมีภาคต่อออกมาอีก 2 ภาคเลยทีเดียว ซึ่งนั่นก่อให้เกิดโปรเจ็กต์ปล่อยเคย์โกะกลับคืนสู่ท้องทะเลแบบในภาพยนตร์ขึ้นโดยโปรเจ็กต์ในครั้งนี้สามารถระดมเงินได้มากถึง 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 252 ล้านบาท) เลยทีเดียว ซึ่งโปรเจ็กต์นี้ก็ประสบความสำเร็จในปี 2002 เคย์โกะถูกปล่อยลงสู่ท้องทะเลอีกครั้ง หลังจากที่ถูกกักขังมายาวนานถึง 26 ปีแต่แล้วเพราะไม่เคยเติบโตมาตามธรรมชาติ ไม่สามารถหาอาหารหรือสื่อสารกับวาฬตัวอื่นๆได้ก็ทำให้เคย์โกะต้องลาจากโลกไปด้วยอาการปอดบวม หลังถูกปล่อยลงสู่ท้องทะเลได้เพียง 1 ปีเศษเท่านั้น
วาฬที่ถูกขังจนครีบโค้งงอ กับเด็กน้อยที่ถูกขังในสถาบันกวดวิชาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ
ภายในซีรีส์จะเห็นได้ว่าชะตาชีวิตของเจ้าทิลลิคัมหรือเจ้าเคย์โกะ ไม่ได้ต่างไปจากเด็ก ๆ ภายในเรื่องมากนัก เจ้าทิลลิคัมและเจ้าเคย์โกะถูกจับมาขังในสวนน้ำตั้งแต่อายุ 2 ขวบ เด็ก ๆ ก็ถูกขังอยู่ในสถาบันกวดวิชาตั้งแต่อายุ 10 ขวบเช่นกัน เจ้าวาฬทั้ง 2 ได้กินแต่ปลาแข็ง ๆ ในทุกวันหรือบางวันก็อาจจะไม่ได้กินเนื่องจากถูกทำโทษจากการไม่ยอมทำตามคำสั่งของครูฝึก ทั้ง ๆ ที่พวกมันควรจะได้ออกล่าและกินอาหารตามปกติวิสัยที่มันต้องกิน เด็ก ๆ ที่ต้องเคร่งเครียดกับการเรียนก็ได้กินแต่คิมบับและรามยอนไร้สารอาหารเพื่อความรวดเร็วในการใช้ชีวิตที่แน่นขนัดไปด้วยการเรียน โดยเด็ก ๆ จะถูกปล่อยให้หิวโหยเพราะจะต้องอดทนเรียนให้จบก่อนถึงจะถูกปล่อยออกไปให้หาอะไรกินได้
วาฬทั้ง 2 ถูกขังอยู่แต่ในสวนน้ำแคบ ๆ จนวิถีชีวิตรวน จนร่างกายไม่สามารถที่จะเติบโตได้ตามปกติจนครีบที่ควรจะต้องตั้งตรงสวยกลับโค้งงอผิดวิสัย อายุที่ควรจะอยู่ยืนยาวก็กลับสั้นลงอย่างน่าใจหาย เด็ก ๆ จำนวนมากในสังคมเกาหลีก็เช่นกันที่ต้องทุ่มเวลากว่าค่อนวันไปกับการเรียน ลดเวลาการกินอาหารโดยการเลือกกินแต่ของที่ได้เร็วอย่างรามยอนหรือคิมบับเพื่อประหยัดเวลา ลดเวลานอนพักผ่อนเพราะต้องเอาเวลาตรงนั้นไปทบทวนบทเรียน เพิ่มการกินเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง ๆ เพื่อให้สามารถอดนอนได้มาก ๆ ลดเวลาเล่นสนุกเพราะการเล่นสนุกเหล่าพ่อแม่จะมองว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้สาระ จนสภาพร่างกายไม่สามารถเติบโตสมวัย สภาพจิตใจก็พังยับเยินจนยากจะเยียวยา ทั้งคู่ล้วนขาดอิสรภาพที่จะแหวกว่ายแสวงหาความสุขในแบบที่ควรจะเป็น วาฬทั้ง 2 ไม่ได้สัมผัสแหวกว่ายเติบโตอย่างแข็งแรงในท้องทะเล เด็ก ๆ ก็ไม่ได้เล่นซนไปตามประสา หรือถูกเลี้ยงให้เติบโตมาอย่างแข็งแรงสมบูรณ์
การหยิบเอาวาฬที่ถูกกักขังมาเปรียบเทียบกับคดีในตอนนี้ของ Extraordinary Attorney Woo จึงถือว่าทำได้ลึกซึ้งและเฉียบขาดมาก เป็นการเขียนบทที่รู้เลยว่าหาข้อมูลในทุกมิติมาอย่างดี ไม่แปลกเลยที่ซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นซีรีส์ที่เข้าไปนั่งอยู่ในใจของใครหลาย ๆ คน
บทความโดย โชว์มีเดอะซีรีส์ สามารถติดตามการวิเคราะห์เจาะลึกประเด็นต่างๆในซีรีส์และการวิเคราะห์ตอนต่อตอนได้ทางเพจ โชว์มีเดอะซีรีส์
บทความที่เกี่ยวข้อง
เรื่องราวชีวิตจริงของ ‘ทนายสาวออทิสติก’ ที่ไม่ได้มีแค่ในซีรีส์ Extraordinary Attorney Woo
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡
