k-movies

รีวิวภาพยนตร์ A Werewolf Boy (2012)

16/02/2018 - warumanu

A werewolf boy

A Werewolf Boy เป็นภาพยนตร์ที่เคยเข้าฉายในเมืองไทยในชื่อว่า วูฟบอย เป็นภาพยนตร์ดังเรื่องหนึ่งของเกาหลี เปิดตัวรอบปฐมทัศน์ที่ 2012 Toronto International Film Festival และกลับมาเปิดตัวในเกาหลีที่งาน 17th Busan International Film Festival ก่อนฉายจริงด้วยการต้อนรับล้นหลามจากผู้ชม จัดเป็นหนังแนวเมโลดรามาที่ประสบความสำเร็จสูงมาก ซึ่งปกติหนังใน genre นี้มักไม่ขายดีถึงขั้นติดอันดับ Top box office เท่าไหร่นัก

A Werewolf Boy นอกจากเป็นหนังฮอตแล้ว ยังมีรางวัลการันตีหนังคุณภาพด้วย นักเขียนโจซองฮี ได้รางวัล Best New Director จาก 49th Baeksang Arts Awards ปี 2013 และอีกหลายเวทีรางวัล รวมทั้งยังพานักแสดงอื่นๆรับกันไปอีกหลายรางวัลเช่นกัน

A Werewolf Boy เป็น fantasy romance drama เรื่องราวของหญิงสาวผู้เปิดโลกใหม่ให้มนุษย์หมาป่าจนกลายเป็นมิตรภาพรักข้ามสปีชีส์ ที่ผูกพันหัวใจบริสุทธิ์ไว้ตลอดกาล เพียงแค่เธอเอ่ยคำเดียวว่าให้รอ

v1

หนังเริ่มเรื่องที่คุณยายซุนอีซึ่งอาศัยอยู่กับครอบครัวอบอุ่นที่อเมริกา เธอได้รับโทรศัพท์จากเกาหลีว่าจะขายบ้านหลังเก่าในวัยเด็กของเธอ ทำให้เธอต้องรีบเดินทางมาเกาหลี โดยมีหลานสาว อึนจู ที่เรียนอยู่เกาหลีพาไปบ้านหลังนั้นที่อยู่ในชนบทห่างไกล เรื่องราวในอดีต 47 ปีที่แล้วที่เกิดขึ้น ณ ที่นี่ จึงถูกเล่าเรียงออกมา

ซุนอี (รับบทโดย พัคโบยอง) เด็กสาววัย 17 สุขภาพปอดไม่ดี เรียนไม่เก่ง มีนิสัยค่อนข้างเก็บตัว แม่พาย้ายมาอยู่ชนบทเพื่อรับอากาศดีๆตามคำแนะนำของหมอ พ่อของเธอเคยเป็นนักธุรกิจแต่เสียไปแล้ว เธอจึงอยู่กับแม่ซึ่งเป็นนักเขียนอิสระ (รับบทโดย จางยองนัม) และน้องสาว คือ ซุนจา ( รับบทโดย คิมฮวางกี)

จีแท (รับบทโดย ยูยอนซอก) ลูกชายของเจ้าของบ้านหลังนี้ พ่อของเขาก็คือพาร์ทเนอร์ธุรกิจของพ่อซุนอี ที่ซุนอีรู้อยู่เต็มอกว่าโกงพ่อของเธอ จีแทเป็นหนุ่มสไตล์เมืองกรุงขี้โอ่ เห็นแก่ตัว ใจร้าย ขี้อิจฉา ชอบวางอำนาจ แต่เขารักซุนอี หวังจะได้แต่งงานกับเธอ  จึงขยันมาป้วนเปี้ยนยุ่มย่ามกับครอบครัวเธอเป็นกิจวัตร ซึ่งกลายเป็นการสร้างความรำคาญใจให้ซุนอีซะมากกว่า

v1

วันหนึ่ง ที่โรงเก็บของข้างๆบ้าน ซุนอีพบเด็กหนุ่มสภาพจรจัดคนหนึ่ง มีลักษณะพฤติกรรมกึ่งสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การกิน การไม่พูด มีแต่สายตาระแวงภัยตลอดเวลา แต่ทั้งตำรวจและสำนักราชการประจำหมู่บ้านก็ไม่สามารถหาทางออกหรือจัดที่ไปให้เด็กหนุ่มคนนี้ได้ในทันที  แม่ซุนอีผู้โอบอ้อมจึงให้เขาอยู่ด้วยกันไปก่อนชั่วคราว ด้วยความสงสาร คิดว่าคงเป็นเด็กถูกทอดทิ้งจากภาวะสงคราม และตั้งชื่อให้สมาชิกใหม่ในครอบครัวคนนี้ว่า ชอลซู (รับบทโดย ซงจุงกิ) 

fullsizephoto256917

ชอลซูถูกจับไปอาบน้ำอาบท่า ตัดผม ใส่เสื้อผ้าใหม่ รูปลักษณ์ภายนอกดูดีขึ้นละ  แต่เมื่อสมาชิกใหม่มาร่วมโต๊ะอาหาร ความโกลาหลก็เกิด เพราะสัญชาติญาณการกินที่มูมมามน่ากลัว ความระแวงคนที่ทำให้ใครเข้าใกล้ไม่ได้ ซุนอีจึงคิดสอนเขาให้สามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนปกติได้ ด้วยใช้ตำราฝึกเลี้ยงสุนัข  จนสามารถสั่งให้ทำ สั่งให้หยุด และมีรางวัลลูบหัวชมเชยที่ถูกใจชอลซูอย่างมาก การใช้ชีวิตร่วมกันจึงเป็นไปได้ราบรื่นขึ้น ชอลซูเรียนรู้อะไรใหม่ๆมากมายจากซุนอี เชื่อฟังซุนอีทุกอย่าง สามารถวิ่งเล่นตามซุนอี ซุนจาและเด็กๆเพื่อนบ้านได้อย่างกลมกลืนสนุกสนาน

images?q=tbn:ANd9GcSKXCMTfyrIhqiNNLc8Njlwj7ebeHZeedb17vy2j9UoaOPMhBmI
song joong ki wolf boy starring role movie
2e877e4e8ca2ab3a2150496555abe0fc

เวลาผ่านไป ซุนอีเพิ่มพูนความรักผูกพันกับชอลซู จนถึงขั้นไม่ยอมปล่อยชอลซูไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เพราะห่วงกลัวจะไม่มีใครเข้าใจและเมตตาเขา ชอลซูจึงได้อยู่กับครอบครัวนี้ต่อไป  ในขณะที่จีแทสะสมความไม่พอใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นคิดร้ายต่อชอลซู  ชอลซูถูกกระตุ้นสัญชาติญาณดิบการต่อสู้เพื่อรอด เมื่อความโกรธพีคถึงจุด ชอลซูจะกลายร่างเป็น มนุษย์หมาป่า!!  แต่ความดุร้ายนั้นจะพุ่งเป้าไปหาเฉพาะคนที่ทำร้ายเขาเท่านั้น เหตุการณ์ทำร้ายร่างกายกันจึงเป็นเรื่องถึงตำรวจ

ความซวยของเรื่องเกิดต่อมา เมื่อซุนอีผู้บอบบางเกิดเป็นลมขณะอยู่กับชอลซู ชอลซูตกใจแบกเธอขึ้นหลังไปหาทุกคนที่คิดว่าจะช่วยได้ แต่บังเอิญไม่มีใครอยู่สักคน จึงพาเข้าไปหลบไว้ในป่าลึก ทำให้ทุกคนเข้าใจผิดว่าชอลซูเกิดดุร้ายอีกครั้ง และจะทำร้ายซุนอี

ในขณะเดียวกัน ให้บังเอิญพบที่มาของชอลซูว่า เขาเป็นผลผลิตของโครงการวิจัยที่ทหารเคยลักลอบสร้างมนุษย์หมาป่าไว้ใช้ประโยชน์ในทางสงคราม นี่เอง เป็นที่มาว่า ชอลซูจึงแข็งแรงมาก สายตา จมูก หู ไวเยี่ยม คงสภาพไม่เสื่อมตามกาลเวลาด้วย

2012+ +A+Werewolf+Boy+%2528Still+4%2529

นายทหารและนักวิจัยเจ้าของโครงการถูกตามกลับมา และได้ตัดสินใจร่วมกันว่าเรื่องนี้ต้องเก็บเป็นความลับ ถ้าไม่ฆ่าก็ต้องขังชอลซูไว้ติดตามพฤติกรรมก่อนว่าจะเป็นอันตรายหรือไม่  ซึ่งแนวโน้มก็เห็นว่าชอลซูดูอ่อนโยนปลอดภัย มีแววเรียนรู้ได้ และปรับตัวอยู่ในสังคมได้  แต่สำหรับจีแทแล้ว ชอลซูเป็นเพียงแค่สัตว์ประหลาดที่ไม่ควรมาอยู่ร่วมกันกับมนุษย์ หรือแย่งความรักความสนใจจากซุนอีไป  เขาจึงมิรอช้า หลอกล่อชอลซูเข้าฉากป้ายสี ให้กลายเป็นตัวอันตรายที่ต้องถูกกำจัดพ้นทางโดยไว (โอย! ยูยอนซอกเล่นเรื่องนี้ได้ร้ายชวนโดนถีบมาก และก็ชวนสงสัยว่า ถ้ายูรวยเท่ขนาดนี้ จะมาหลงรักสาวป่วยๆจนๆคนนี้ทำไม ห๊า!)

แผนชั่วของจีแททำให้เหตุการณ์บายปลายไปเยอะ น่าเป็นห่วงชะตากรรมของชอลซู จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกับความสัมพันธ์ของเขาและเธอ จนทำให้ย้ายไปอยู่ในอเมริกา และการกลับมาเยือนบ้านหลังนี้อีกครั้งของคุณยายซุนอี แม้จะผ่านเลยไปถึงสี่สิบกว่าปีแล้ว จะพบเรื่องราวใดอีก ไปติดตามชมต่อกันได้

fullsizephoto261544
A Werewolf Boy 0014

จริงๆแล้ว เรื่องนี้เป็นเมโลดรามา หรือเรียกง่ายๆภาษาชาวบ้านกันว่า หนังน้ำเน่าประโลมโลก คือ ตัวละครมาแบบไม่เรียล มีเพียง 2 มิติ ดีสุดกับร้ายสุด ไม่มีเทาๆ เรื่องราวก็เป็นสูตรสำเร็จ คนไม่ดีทำร้ายคนดี ทำให้เดาเรื่องราวได้ง่าย แต่หนังก็ยังให้ความสนุกสนานที่ชวนติดตามได้อยู่ เพราะความเข้มข้นของอารมณ์  ความน่าเอ็นดูและชวนสงสาร  ลุ้นในชะตากรรมของชอลซู  และยังลุ้นความรักความผูกพันของเขาทั้งสองว่าจะได้ลงเอยเป็นอย่างไร บางคนบอกว่าชวนนึกถึงเทพนิยาย The Beauty and The Beast โฉมงามกับเจ้าชายอสูร แต่ผู้เขียนว่าโดยรวมหนังไม่ได้โรมานซ์แฟนตาซีถึงขั้นนั้นนะ ในความเห็นส่วนตัวกลับรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นแบบ E.T. The Extra Terrestrial เพื่อนรักจากต่างดาวมากกว่า

ความซึ้งประทับใจในความรักผูกพันของซุนอีกับชอลซู มาในรูปแบบที่เปรียบเสมือน เจ้านายกับสัตว์เลี้ยง เพื่อนกับเพื่อน หรือในบางมุมที่ผู้ชมอาจจะอยากลุ้นให้เขารักกันเช่นหนุ่มสาว แต่เชื่อไหมว่า ถึงจะไม่ได้ชัดว่าเป็นรักกันแบบชายหญิง แต่แทบทุกฉากเข้าบทพระนางกันก็ทำให้ผู้ชมมีความฟินได้เต็มๆนะ ซึ่งเดิมหนังก็ทิ้งบทจบไว้แบบเรียลๆ ทราบมาว่าผู้กำกับได้ตัดสินใจปรับบทจบใหม่ภายหลังที่หนังได้เปิดตัวไปแล้ว เพื่อให้หนังได้อรรถรสสมบูรณ์ขึ้น

v1

หนังเรื่องนี้เรียกน้ำตาได้หลายๆฉาก ที่ผู้เขียนประทับใจมาก คือ หลังจากซุนอีพยายามสอนพูดอ่านเขียนให้ชอลซูไปมากมาย แต่ก็ยังไม่เห็นจะมีบทให้ชอลซูพูดได้สักที จนมาถึงฉากสำคัญที่ซุนอีตัองตัดสินใจอย่างเจ็บปวดไล่ชอลซูให้จากไปเพื่อความปลอดภัยของเขาก่อนที่ชาวบ้านจะมาถึง คำพูดแรกที่ชอลซูออกมาจากปากและจากใจ คือ ‘คาจิมา’ ซึ่งแปลว่า ‘อย่าไป’ โห..น้ำตาหยดแหมะทันใด หรือฉากง่ายๆตลอดเรื่องที่จะเห็นชอลซูมักคอยก้มหัวลงเพื่อขอให้ซุนอีลูบแสดงความรักเป็นรางวัลตอบแทนทุกครั้งที่ทำถูกใจตามสั่ง ทำเอาเราต้องอมยิ้มอิ่มเอมใจ หรือแม้แต่คำสั้นๆในกระดาษโน้ตที่บอกชอลซูว่า ‘รอก่อน’ มันช่างฟิลจี๊ดสะเทือนใจมาก

ซงจุงกิ สลัดคราบ flower boy (เป็นคำเรียกหนุ่มหน้าตาดีในสำนวนของชาวเกาหลี) หน้าหวานๆ เปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตกึ่งคนกึ่งสัตว์ได้น่าสนใจ  การแสดงของเขาทำได้ดีมาก ด้วยทั้งท่าทาง และสายตา บทสวาปามมูมมามเป็นสัตว์ป่าผู้หิวโหย บทตื่นตัวระแวดระวังภัย บทใสซื่ออยากรู้อยากเห็น บทเชื่องแบ๊วจงรักภักดี บทหวงแหนเจ้าของ ยกเว้นบทเดียวคือความดุร้ายอันตรายเป็นหมาป่า ก็ไม่รู้เป็นเพราะหน้าตาหวานๆทำได้ยาก หรือ ยังแสดงไม่ถึง เทคนิคถ่ายทำก็ช่วยไม่ได้มาก ส่วนตัวไม่ค่อยได้อารมณ์หวาดกลัวเท่าไหร่เลย แต่เอาจริง ลึกๆของคาแรคเตอร์ตัวละครชอลซูก็อาจไม่ได้เน้นด้านดุร้ายอยู่แล้ว ถ้าจะเปรียบก็คงเหมือนเป็นสุนัขพันธุ์น่ารัก พวกกลุ่ม toy ที่เวลาโกรธก็แยกเขี้ยวได้ แต่เนื้อแท้ก็ยังมีความน่ารักอยู่มั้ง (นี่เข้าข้างกันเกินไปรึปะนะ 555)

เมื่อซงจุงกิเข้าบทกับพัคโบยองที่แสดงได้ดีเยี่ยม ถ่ายทอดอารมณ์ได้เป็นธรรมชาติมาก เคมีทั้งคู่ไปด้วยกันได้ลงตัว จึงควรค่าให้บันทึกไว้เป็นตำนานรักบริสุทธิ์อีกบทหนึ่งที่งดงามตราตรึงใจผู้ชมไปทั่วโลก

a werewolf boy wolf boy korean movie

นำ Ost.ไพเราะใส ซึ้งๆจากเสียงร้องของพัคโบยองเอง

Trailer : 


Korupdate






เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อการตลาด

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก