หลังจากที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินทางไปเริ่มต้นเส้นทางการเป็นไอดอลที่ประเทศเกาหลีใต้ จนกลายเป็น นิชคุณ แห่งบอยแบนด์ชื่อดัง 2PM ที่บุกเบิกความสำเร็จในฐานะศิลปินเกาหลีสัญชาติไทย และเป็นต้นแบบและไอดอลให้กับศิลปินอีกมากมายเดินตามรอย ผ่านไปนานมากกว่า 10 ปี นับตั้งแต่เข้าวงการ ในที่สุดในปีนี้เขาก็ได้มีโอกาสได้จัดคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทย กับงานที่มีชื่อว่า “NICHKHUN SOLO CONCERT ‘HOME’ IN BANGKOK with Dr.Jill” ซึ่งจัดขึ้น ณ แจ้งวัฒนะ ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยผู้จัด บริษัท อะชิ แอคทิเวชั่น จำกัด และ บริษัท “ชาณ แอคทิเวชั่น จำกัด” (CHAN ACTIVATION CO., LTD.) และ บริษัท “ชาณ แอคทิเวชั่น จำกัด” (CHAN ACTIVATION CO., LTD.)
นิชคุณ ปรากฏตัวในชุดสูทสีขาว เนคไทแดง ก่อนที่จะเข้าประจำที่เปียโน แล้วโซโล่ด้วยเพลงแรก Home บทเพลงที่มีความหมายลึกซึ้ง สื่อถึงการเปิดบ้านต้อนรับเหล่าฮอตเทสต์ชาวไทยท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง
ต่อด้วยเพลงภาษาญี่ปุ่น Miss Wonderful และ เพลงภาษาเกาหลี My Valentine ที่เขาโชว์ความสามารถร้องเพลงไปพร้อมๆกันกับเล่นเปียโน โดยแฟนๆต่างร้องเพลงตามอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะท่อนที่นิชคุณได้โชว์แร็พ ซึ่งสร้างความประทับใจในความสามารถที่น่าทึ่งของเขาไปตามๆกัน ก่อนที่จะปิดท้ายช่วงแรกด้วยเพลงบัลลาดภาษาอังกฤษ Colorful X’Mas ที่ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกออกมาได้อย่างดี
นิชคุณ ไม่ลืมที่จะถามแฟนๆ “ทานข้าวยัง? ก็บอกให้ทานข้าวกันมาอ่ะ” เนื่องจากห่วงว่าแฟนๆจะไม่มีแรง ในขณะเดียวกันเจ้าตัวก็แซวตัวเองว่า “หัวเข่าเริ่มไม่ดีแล้วครับ”
หลังจากที่พูดคุยกันพอหอมปากหอมคอ น้องคุณคนเดิมของแฟนคลับก็ชวนแฟนๆยืดเส้นยืดสายไปกับ เพลง Love is True ที่เพิ่มความร้อนแรงด้วยท่าเต้นสุดเซ็กซี่และทำเอาแฟนๆละสายตาจากกระดุมเม็ดบนที่ปลดออกไม่ได้
ต่อกันที่เพลงญี่ปุ่นเพราะๆ Maybe You Are ที่นอกจากจะมีแดนเซอร์มาช่วยสร้างสีสันแล้ว นิชคุณ เองก็มีท่าเต้นจัดเต็มให้แฟนๆแทบล้มทันยืน
“จบแล้วฮะ ก่อนอื่นขอยินดีต้อนรับทุกคนสู่บ้านผมนะครับ ตามชื่อคอนเสิร์ต ‘HOME’อยากให้ทุกคนคิดซะว่าผมชวนมาบ้านผม มานั่งฟังเพลง เอาเสื่อมาปูกัน… 11 ปีอ่ะ ขอโทษที่ให้รอนานขนาดนี้ จริงๆแล้วเป็นแผนของคุณตลอด 11 ปี คือรอให้เค้าเข้ากรมกันก่อน คุณถึงได้ปฏิบัติการ (ขำ) ดันไปสัญญาบนเวทีใหญ่ว่าจะโซโล่ ปากรั่วไง ก็เลยต้องทำตามสัญญา”
นิชคุณ กล่าวต้อนรับทุกคนอย่างเป็นทางการ ก่อนพูดซึ้งติดตลกถึงแฟนๆว่า “เพลงแรกที่แต่งให้กับแฟนคลับที่น่ารักของผม เพลงนั้นก็คือ ’30ยังแจ๋ว’ล้อเล่น แต่ 31แล้วอ่ะ แต่งเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ขอบคุณทุกคนที่รักและปกป้องผม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนะครับ!”
เพลิดเพลินด้วยเพลง Let it Rain เวอร์ชั่นอะคูสติกในภาษาอังกฤษ ในบรรยากาศสบายๆ ต่อด้วยเพลงที่มีเนื้อหาเข้ากันกับฝนตก Umbrella ซึ่งเป็นเพลงซึ้งที่นิชคุณอยากจะเป็นร่มกันฝนกันแดดให้กับแฟนๆ ซึ่งเพลงนี้เขาได้จัดทำขึ้นมาถึง 5 ภาษาที่เขาพูดได้ นั่นคือ อังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และไทย เพื่อแทนคำขอบคุณสำหรับการสนับสนุนจากแฟนๆที่มีมาโดยตลอด
ก่อนเข้าสู่ช่วงต่อไป หลังจากที่แฟนๆรับชมคลิปภาพกิจวัตรประจำวันของนิชคุณกับกีตาร์ตัวโปรดแล้ว เขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง ในชุดสีแดงแรงฤทธิ์ แล้วโชว์เพลง Lucky Charm เพลงรักจังหวะช้าๆ แล้วไปต่อกันแบบไม่ต้องพักกับเพลงน่ารักใสๆ อย่าง Jealous ที่ใครฟังเป็นต้องเคลิ้ม สานต่ออารมณ์ ด้วยเพลงช้าบรรยากาศฟุ้งๆลอยๆ Endearing การแสดงโชว์ช่วงนี้เรียกได้ทำเอาแฟนๆได้รับทั้งอาหารใจจากเสียงอันไพเราะ รวมไปถึงอาหารตาจาก Six packs แน่นๆที่ดูเหมือนเจ้าตัวจะแอบฟิตหุ่นมาโชว์โดยเฉพาะอีกด้วย
พาเข้าเพลงเกาหลี Quit ก่อนเปลี่ยนอารมณ์มาเป็นเพลงเศร้าปนเซ็กซี่ในเพลง Like in the Movie กันบ้างทว่ายิ่งร้อง เหมือนอารมณ์ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะท่อนแร็พอันแสนเจ็บปวด ที่ดึงความรู้สึกคนดูออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ แล้วเปลี่ยนมาโชว์สเต็ปแด๊นซ์ในเพลง Only You ของ 2PM โดยเพลงนี้มีทีเด็ดอยู่ตรงท่ากอดอกแร๊พ เพราะเรียกเสียงกรี๊ดได้ถล่มทลาย
“พยายามเอาเพลงของ 2PMมาร้องบ้าง เพราะเพลงผมมีแค่ 9 เพลง ร้องทั้งคอนเสิร์ตแค่ 9 เพลงได้ไหม แต่ค่าบัตรเท่าเดิมนะ” นิชคุณ พูดหยอกแฟนๆ
นิชคุณ ขอจัดเต็มคอสตูมแน่นๆ แอบไปเปลี่ยนเสื้อกลับขึ้นมาบนเวทีใหม่ โดยคราวนี้มาในเสื้อเชิ้ตเก๋ๆ สีฟ้าขาว มาสนุกกันต่อกับเพลงน่ารักๆอย่าง So Wonderful ร้องจบไม่ทันไร เจ้าตัวขอพักแล้วพูดคุยกับแฟนๆว่าเขาตั้งใจอยากจะทำคอนเสิร์ตนี้ให้ออกมาเหมือนกับนั่งฟังเพลงอยู่ในบาร์ ไม่ใช่คอนเสิร์ต เพราะเขาเคยไปดูคอนเสิร์ตของเพื่อนๆเมมเบอร์ทุกคนในวง 2PM มาแล้ว เลยอยากจะลองแนวที่แตกต่างจากเพื่อนๆดูบ้าง
แม้จะบ่นว่าตัวเองแก่แล้วและขอพักสักหน่อย แต่พูดว่าพักได้ไม่ทันขาดคำก็ชวนเข้าเพลง Mars ต่อ ให้แฟนๆได้เพลิดเพลินกับเพลงเปียโนอันไพเราะที่เกิดแรงบันดาลใจของนิชคุณระหว่างไปเที่ยวที่หัวหินอีกด้วย
ขึ้นชื่อว่า 2PM ทั้งที นิชคุณ ขนเพลง Again & Again มา rearrage ใหม่ในเวอร์ชั่นช้าๆที่ค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆในช่วงหลัง ต่อด้วยเพลง Bridge เพลงเร็วจังหวะสนุกๆ ที่ดูเหมือนจะส่งสัญญาณเพลงสุดท้าย แต่ยังไม่ท้ายสุด…เพราะ นิชคุณ ได้มอบความพิเศษด้วย Vlog ที่พาแฟนๆย้อนไปสู่จุดเริ่มต้นกว่าจะออกมาเป็นคอนเสิร์ตโซโล่ของเขาในครั้งนี้ ตั้งแต่ออกจากบ้าน ไปห้องซ้อม ร่วมประชุมเสนอความคิดเห็น ทานข้าว ไปจนถึง จุนโฮเมมเบอร์ของ 2PM โทรมาคุยพร้อมให้กำลังใจ หรือแม้แต่การนั่งสัมภาษณ์ตัวเองบนดาดฟ้าอย่างน่ารักน่าเอ็นดู
หลอกแฟนคลับว่าจะรีบกลับได้ไม่นาน เขาก็ได้เซอร์วิสด้วยการร้องเพลง Let it Rain อีกรอบในบรรยากาศที่ใกล้ชิดกว่าเดิม ซึ่งแฟนๆได้ชูป้ายโปรเจกต์มอบให้กับนิชคุณ โดยมีข้อความว่า “I WILL BE YOUR UMBRELLA”
“ขอบคุณที่อุตส่าห์รักอุตส่าห์รอมาตลอด 13 ปี อยากพิสูจน์ให้ทุกคนรู้ว่าที่รักที่รอผมเนี่ย ไม่เสียเวลา นี่เป็นแค่อัลบั้มแรก คอนเสิร์ตแรก ผมค่อนข้างพอใจ แต่ความสามารถของผมยังต่อยอดพัฒนาได้อีก สัญญาว่าจะไม่หยุดพยายาม จะทำให้ดีกว่านี้ ต่อไปอาจมีขลุ่ย กลองยาว สมัยเด็กๆ เคยอยู่วงกลองยาว ด้วยความใส่ชุดสีเขียวนีออน แล้วโดนล้อว่า เด็กฝรั่งตีกลองยาว เป็นคนไทยไม่ใช่ฝรั่งซะหน่อย ในอนาคตมีอะไรสนุกๆ รออยู่ ขอให้รักในความเป็น คุณ คนนี้ จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอนครับ!”
จัดไปยาวๆในช่วงสุดท้าย กับเพลง We Become One ซึ่งเจ้าตัวเองก็ยอมรับว่าเพลงเก่ามากแล้ว จนต้องแอบวิ่งไปดูเนื้อเพลงบ่อยๆ สร้างเสียงหัวเราะได้ไม่น้อย ตามมาด้วย 4 เพลงไฮไลท์ เริ่มจาก I Can’t , Come back when you hear this song , Hot และปิดท้ายด้วยเพลงฮิตฟินนาเล่ กับเพลงฮิตของ 2PM อย่าง Hand’s Up ที่ทุกคนพร้อมใจกันยกมือ ทั้งร้อง ทั้งเต้น กันสุดเหวี่ยงชนิดลืมอายุไว้ที่บ้านกันเลยทีเดียว
หลังจากที่เม้าท์มอยถึงคุณแม่ และน้องสาวสุดหวงเสร็จเรียบร้อย นิชคุณ ก็ได้ทิ้งท้ายกับงานคอนเสิร์ตในครั้งนี้ว่า
“ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเชื่อเลยว่าตัวเองทำแบบนี้ได้ พอลองทำแล้ว ก็ทำได้ จะพยายามทำให้ดีที่สุด อย่างน้อยก็ได้ลองทำ ซึ่งนี่เป็นแค่สเต็ปแรกเท่านั้น ผมจะโชว์ว่าผมทำได้ดีกว่านี้อยู่ตลอดเวลา ขอให้ทุกคนแข็งแรง มีความสุข รวยๆ นะครับ”
งานนี้ไม่เพียงแค่จะเป็นการแฟลชแบ็คความสำเร็จทั้งหมดของ นิชคุณ ที่ได้สั่งสมทักษะการร้อง เต้น เล่นดนตรีอย่างดี ตลอดระยะเวลามากกว่า 10 ปี แล้ว ยังเป็นการบันทึกช่วงเวลาแห่งความประทับใจที่ “บ้าน” ที่แท้จริงของเขา นั่นคือ ประเทศไทย…“Home” in Bangkok
ติดตามข่าวสารจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
