สิ้นสุดการรอคอยภาคจบ ลุ้นภารกิจระทึกสุดแหวกแนว
ข้ามยุคทะลุมิติ ล่าดาบศักดิ์สิทธิ์เพื่อพิชิตแผนร้ายเอเลี่ยนครองโลก
จัดเต็มแอ็คชั่นมันส์ๆฉบับฮีโร่ทีมอเวนเจอร์ส
พร้อมเผยเรื่องราวชวนตะลึงซึ่งอยู่เบื้องหลังเนื้อหาภาคแรก
เชื่อว่าคนที่ชมเรื่องนี้ ก็คงเพราะชมภาคแรกกันมาแล้ว แต่อาจจะทิ้งระยะห่างไปนิด หลายคนอาจติงว่าชักลืมๆต่อไม่ติด ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะหนังมีบทสรุปสั้นๆไว้ให้ต้นเรื่อง และผู้เขียนก็ขอรวบสรุปประเด็นสำคัญของภาค 2 ปูให้ก่อนชม ก็คือ
เรื่องราวของ Alienoid ภาคสองนี้จะใช้เวลาช่วงต้นอยู่ในยุคโครยอเป็นหลัก ผู้คนมากมายจะพัวพันกันเป็นทอดๆอย่างอิรุงตุงนังจากเงื่อนการหวังครอบครองดาบศักดิ์สิทธิ์ ดังนี้
อีอัน (รับบทโดย คิมแทรี) ตามหาดาบศักดิ์สิทธิ์และโรบอตฮิวแมนนอยด์ Thunder (รับบทโดย คิมอูบิน) เพื่อเดินทางกลับไปยังอนาคตที่ตนจากมา (ตามชื่อเรื่อง) นำดาบนั้นไปใช้จัดการภารกิจที่ค้างคาของพ่อกับ Thunder ในการหยุดยั้งยานเอเลียนส์ที่บรรทุกลูกฝุ่นฮาวามหาศาลมาหวังระเบิดใส่โลกเพื่อเปลี่ยนสภาพอากาศให้เป็นที่อยู่ใหม่ของพวกมัน มนุษย์ก็จะถูกกำจัดสิ้นไปโดยปริยาย
กลุ่มนักล่าเงินรางวัลติดตามล่าอีอันและดาบศักดิ์สิทธิ์ รวมถึง มูรึก (รับบทโดย รยูจุนยอล) ที่ติดตามอีอัน เพราะต้องการดาบศักดิ์สิทธิ์มาจัดการกับความลับของตัวเอง หลังรู้ว่าตัวเองมีพลังลึกๆภายในผิดปกติจนสามารถดึงดาบแกร่งในพัดวิเศษที่ฮยอนกัมให้ไว้ออกมาได้ เขาสั่งสมุนสองภูติแมว (ที่แปลงเป็นคนได้) ออกจากพัดวิเศษ นำร่องสะกดรอยอีอัน แฝงด้วยอีกเหตุผลที่เขามีใจผูกพันกับอีอันในฐานะคนเคยเป็นคู่บ่าวสาวกันมา
จาจัง (รับบทโดย คิมอึยซอง) ในคราบนักบวชปลอม เขาไล่ล่าอีอันเพื่อแย่งชิงดาบศักดิ์สิทธิ์ หวังใช้ปลดปล่อยเอเลี่ยนลาสบอสผู้บงการฮาวา (ซึ่งเคยถูกขังในร่างของมุนโดซอกที่รับบทโดยโซจีซอบ) ที่เขากำลังตามหา ซึ่งจาจังเข้าใจว่าเป็น 1 ใน 4 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ทะลุมิติมาของลาสบอสที่เขาฮวังนึงเมื่อสิบปีก่อน นั่นก็คือ ฮยอนกัม (รับบทโดย ยูแจมยอง) คู่เซียนเต๋า ฮึกซอน (รับบทโดย ยอมจองอา) กับชองอุน (รับบทโดย โจอูจิน) และแกตง (รับบทโดย คิมคีชอน) ในตอนแรกจาจังก็หารู้ไม่ว่า จริงๆแล้วยังมีเจ้าเด็กมูรึกอยู่ตรงนั้นอีกคน
คู่เซียนเต๋าแห่งเขาซัมกักตามหามูรึก ด้วยเชื่อว่าต้องจัดการฆ่ามูรึก เพราะรู้ว่ามีสิ่งชั่วร้ายในร่างตามที่ฮยอนกัมเคยบอกไว้เมื่อสิบปีก่อนตอนช่วยมูรึกไว้ การที่ตอนนี้มูรึกสามารถดึงดาบแกร่งออกจากจากพัดได้ทั้งๆที่มีเพียงคู่เซียนเต๋ากับฮยอนกัมเท่านั้นที่ทำได้ เป็นตัวกำหนดว่าถึงเวลากำจัดเขาแล้วจริงๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่ทั้งคู่จะตัดใจลงมือไหว
ทั้งนี้ ผู้ที่ช่วยเปิดเผยปมเรื่องราวเป็นการตั้งต้นให้ก็คือ ป้าหูหนวกตาบอด (รับบทโดย คิมแฮซุก) คนรับใช้ที่สำนักมิลบน ผู้ล่วงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นสิบปีก่อนจากจาจังโดยที่เขาไม่รู้ตัว
นอกจากนี้ ยังมีตัวละครใหม่คือ นึงพา (รับบทโดย จินซอนคยู) นักดาบตาบอดที่เก่งกาจ มีดาบทรงพลังคู่ใจ เขาตามล่าดาบศักดิ์สิทธิ์เพื่อหวังใช้รักษาดวงตา นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่มีความแค้นส่วนตัวต่อจาจัง จากเหตุการณ์ในอดีต
ในส่วนของโลกปัจจุบัน ก็ยังมี มินแกอิน (รับบทโดย อีฮานี) น้าสาวของเพื่อนอีอัน ในภาคนี้เธอจะมีบทบาทในการช่วยอีอันทำภารกิจพิทักษ์โลกให้สำเร็จ เพราะเธอมีจิตสำนึกในหน้าที่ของอาชีพเจ้าพนักงานพิทักษ์สันติราษฏร์คนหนึ่ง และยังมีอีกเหตุผลที่ส่งพลังแรงกล้าให้เธอ ขอเก็บไว้เป็นปริศนาอุบไว้ก่อนนะคะ
ในช่วง 45 นาทีหลังของเรื่องจะเข้าสู่การ ‘return to the future’ แต่ลากพากันมาเป็นขบวน เหมือนพับครึ่งกระดานเล่นจากโครยอมาเปิดฉากรบสนั่น แอ็คชั่นเดือดกันในโลกปัจจุบัน ซึ่งกำลังเข้าใกล้วิกฤติไปทุกขณะ จะทันอย่างไร มันส์ขนาดไหน ต้องไปตามดูกันค่ะ
เรียกว่าเป็นการคลี่คลายเรื่องราวให้จบถ้วน ครบคำอธิบายที่มาที่ไป สิ่งที่ชวนสงสัยจากภาคแรกก็เฉลยกันไป แถมพ่วงเฉลยสิ่งใหม่ที่เพิ่งปล่อยมาให้หลุดอุทาน ‘อ้าว! เฮ้ย!’ กันอย่างสนุกเลย ก็ออกจะดูยุ่งเหยิงชวนปวดหัวนิดหน่อย แต่อย่าไปคิดจับผิดเยอะ ปล่อยไหลๆตามไปจะได้สนุกแบบแฟนตาซีเพลินๆ ผู้เขียนว่าเค้าก็ผูกปมร้อยบทได้เก่งดีนะ
หลายคนอาจเสียดายว่าภาคนี้ คิมอูบินเหมือนมาแสดงรับเชิญ แอร์ไทม์น้อยนิด ทอดทิ้งบทฮีโร่เท่ๆเจ้าของซีนฮาๆไปหมด แต่ก็ยังดีที่คนอื่นๆที่เหลือช่วยกันตบมุกฮากัน ยืนหนึ่งคงต้องยกให้คู่เซียนเต๋า ผู้เขียนชอบใจสุดก็ฉากเป่าขลุ่ยกล่อมจิต ที่ทำเอามูรึกร่ายรำสุดฮา หน้าตารยูจุนยอลนี่เป็นคอมเมดี้ตัวพ่อได้เลยนะ
ฉากแอ็คชั่นก็เสิร์ฟจัดเต็ม ต่อสู้กันสนั่น หลายโลเคชั่น ตู้มต้ามสะใจ ซีจีทำงานได้เข้าตาดีสมทุนสร้าง ชวนใจหายเมื่อรู้ว่าภาคนี้ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จนักในแง่ยอดขาย ไปไม่ถึงจุดคุ้มทุน ก็คงเป็นงานแปลกแหวกแนวเกินไป ที่พาแตกได้เป็นสองเสียงต่างจริต ใครที่ชอบก็ชอบมาก ใครที่ไม่ชอบก็คงไม่ชอบเอาเสียเลย สำหรับผู้เขียนผู้นิยมความ breakthrough และคุณภาพโปรดัคชั่นที่มาพร้อมนักแสดงตัวเจ๋งๆยกทีม คือแฮปปี้มาก ถ้าเข้าโรงไทยก็จะไปอุดหนุนหลายๆรอบเลยค่ะ
Trailer :
ติดตามบทความรีวิวอื่นๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่ เพจมูฟวีข้ามวันซีรีส์ข้ามคืน