kornews

คุยกับ ผู้กำกับ Call It Love ‘อีกวังยอง’ กับมุมมองลึกซึ้งในการถ่ายทอดอารมณ์ และความรู้สึกที่เรียกว่า ‘รัก’

30/03/2023 - korseries

Lee Kwangyoung Call It Love Interview cover

ถ้าหากได้ชมซีรีส์ Call It Love นอกเหนือไปจากตัวเรื่องราวที่ดำเนินไปด้วยการเห็นพัฒนาการที่ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปทีละนิดของตัวละครหลัก ชิมอูจู (รับบทโดย อีซองคยอง) และ ฮันดงจิน (รับบทโดย คิมยองกวัง) แล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่ามู้ดแอนด์โทนของซีรีส์เรื่องนี้ สามารถที่จะทำให้ผู้ชมอินมากยิ่งขึ้น ผ่านงานภาพ แสง เสียง ซึ่งถูกจัดวางองค์ประกอบเป็นอย่างดี ที่สอดคล้องและเสริมสร้างเรื่องราวให้ยิ่งมีมิติ

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังงานกำกับนี้ คือ ผู้กำกับอีกวังยอง (Judge vs Judge / The Secret Life of My Secretary / No, Thank You) ที่เธอได้ใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อหวังที่จะสื่ออารมณ์ของนักแสดง และสารที่นักเขียนบทต้องการจะนำเสนอให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และในบทสัมภาษณ์พิเศษนี้ที่ Korseries ได้รับจากทาง Disney+ Hotstar Thailand เชื่อว่าจะทำให้คุณได้เห็นความพยายามที่เธอทุ่มเทมา รวมไปถึงเรื่องราวอินไซด์ที่จะทำให้เข้าใจในหลายฉากหลายตอนที่นำเสนอในเรื่องมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

Call It Love เป็นซีรีส์ OTT เรื่องแรกของคุณ คุณรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อผลงานของคุณได้ฉายสู่สายตาผู้ชมทั่วโลกผ่าน Disney+ Hotstar?

ผู้กำกับอีกวังยอง: แน่นอนว่ามันก็มีสิ่งที่น่าพึงพอใจแตกต่างกันไปเมื่อเทียบกับช่องทางอื่น ๆ ค่ะ และด้วยความที่ทุกคนต่างทุ่มเททั้งหัวใจและจิตวิญญาณลงไปในผลงานนี้ ฉันจึงหวังว่าผู้ชมจะรู้สึกสนุกและหลงรักซีรีส์เรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งฉันเองก็ค่อนข้างประหม่าทุกครั้งเวลาที่เฝ้ารอตอนใหม่ในทุก ๆ สัปดาห์ค่ะ

คิดว่าอะไรเป็นสิ่งที่ทำให้ Call It Love แตกต่างจากซีรีส์แนวโรแมนติกเรื่องอื่น ๆ คะ

ผู้กำกับอีกวังยอง: Call It Love เป็นซีรีส์ที่ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นถึงการรักและการถูกรักเท่านั้น หากแต่ยังรวมไปถึงเรื่องราวของชีวิตคน ๆ หนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยความรักนั้นอีกด้วย และความรักในซีรีส์เรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นในเชิงโรแมนติกเท่านั้น มันสามารถเป็นได้ทั้งความรักระหว่างเพื่อน ครอบครัว หรือแม้แต่ในความผูกพันอื่นใด ฉันอยากจะเล่าเกี่ยวกับความผูกพันเหล่านั้นและทำซีรีส์เรื่องนี้ด้วยความหวังว่าตัวละครแต่ละตัวจะก้าวผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตด้วยความขอบคุณในความรู้สึกที่เรียกว่า ‘รัก’ ค่ะ

Director Lee Kwangyoung Call It Love scaled

เคยเห็นในบทสัมภาษณ์ที่เล่าว่า สีสันของซีรีส์เรื่อง Call It Love นี้เปรียบเหมือน “สีทับทิมส้มเรืองรองบนท้องฟ้าในยามตะวันตกดิน” แล้วมีอะไรที่คุณรู้สึกกังวลเป็นพิเศษในการที่จะถ่ายทอดสิ่งนั้น ขณะกำกับซีรีส์เรื่องนี้ไหมคะ?

ผู้กำกับอีกวังยอง: ตอนได้รับบทซีรีส์ ฉันรู้สึกตกหลุมรักกับแต่ละประโยคที่นักเขียนบทได้เขียนเอาไว้เลยค่ะ แม้จะพยายามแข็งกระด้างแต่ก็ยังมีความอบอุ่นไหลซึมออกมาจากบทสนทนาเท่านั้น ฉันอยากมั่นใจว่าตัวเองจะสามารถกำกับการแสดงให้เวลาที่บทเหล่านั้นออกมาจากปากของเหล่านักแสดงแล้ว จะทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับบรรยากาศอย่างที่ที่ฉันรู้สึกต่อบทของซีรีส์นี้ค่ะ เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันได้พูดคุยปรึกษากับนักเขียนหลายต่อหลายครั้งเกี่ยวกับความหมายและความรู้สึกต่าง ๆ ในแต่ละบรรทัดเลย ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะสร้างสภาพแวดล้อมที่เหล่านักแสดงจะสามารถถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างไร้ข้อจำกัดค่ะ

ในส่วนของงานภาพ ฉันอยากจะใส่ความโล่งและพื้นที่ว่างเปล่าลงไปในแต่ละฉากเพื่อแสดงถึงความรู้สึกเปลี่ยวเหงาที่คอยขีดเส้นใต้แต่ละตัวละครเอาไว้ มีการใช้กรอบในหลายครั้งเพื่อให้เห็นว่าตัวละครแต่ละคนต่างตะบี้ตะบันใช้ชีวิตของพวกเขาในแต่ละวันอย่างไร แต่ในขณะเดียวกัน ฉันก็ได้พยายามอย่างหนักที่จะสอดแทรกหยาดหยดของความอบอุ่นผ่านพาเล็ตสีแดงทับทิมและส้มเพื่อสะท้อนถึงความรู้สึกอ้างว้างในยามย่ำค่ำและเกริ่นถึงความหวังในยามรุ่งสาง ผู้กำกับภาพนั้นทำงานอย่างหนักเพื่อให้เกิดสิ่งนี้จริง ๆ ค่ะ

ฉันมั่นใจว่ายังมีสิ่งที่ฉันสามารถทำให้ดีได้กว่านี้ แต่ฉันก็ได้โอกาสในการลองหลายยิ่งหลายอย่าง นั่นก็เป็นเพราะฉันได้บทละครที่วิเศษและเหล่านักแสดงที่สุดยอด ฉันรู้สึกขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ

เราเห็นฉากการกินสอดแทรกมาในทุกตอนของซีรีส์เลย อยากทราบว่ามีเหตุผลเฉพาะสำหรับฉากเหล่านี้ไหมคะ

ผู้กำกับอีกวังยอง: ฉันคิดว่าทุกอย่างมักจะจบลงที่เรื่องราวการกินและการใช้ชีวิตของเราเสมอ ในซีรีส์มีฉากที่อูจูยัดอาหารคำใหญ่เข้าไปในปากของเธอในวันที่เธอรู้สึกวันนั้นช่างแสนยาวนาน หรือฉากของดงจินที่คว้าอะไรบางอย่างขึ้นมากิน แม้วันนั้นจะเป็นวันที่ทำให้เขารู้สึกยากที่จะกลืนอะไรเข้าไปก็ตาม ทั้งหมดก็เป็นเพราะเขายังคงต้องใช้ชีวิตต่อไปอยู่ดี ฉันจึงคิดว่าประเด็นนี้มันสอดคล้องกับสิ่งที่เราต้องการจะสื่อสาร ในการถ่ายทอดเรื่องราวการดำเนินชีวิตของผู้คน ซึ่งฉากทั้งหมดนี้มันสะท้อนให้เห็นว่าพวกเราทุกคนมักจะต้องมีวันที่อดทนวันนี้ หรือ มีวันที่ต้องอดทนในวันพรุ่งนี้นั่นเอง 

เพลงประกอบซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากท่วงทำนองที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ลึกซึ้ง ซึ่งเข้ากันได้ดีกับการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเหล่านักแสดงและองค์ประกอบต่าง ๆ ในฉากที่สวยงาม ได้ยินมาว่าคุณเป็นคนออกไอเดียในการนำเพลง “Secret Garden” มารีเมคเป็นเวอร์ชั่นของ Wonstein ทำไมคุณถึงสนใจเพลงนี้คะ?

ผู้กำกับอีกวังยอง: วันหนึ่งตอนที่ฉันกำลังเตรียมตัวถ่ายทำอยู่ก็บังเอิญไปได้ยินเพลง “Secret Garden” ของอีซังอึนในวิทยุ ฉันคุ้นเคยกับเพลงนี้อยู่แล้ว แต่เพราะในตอนนั้นหัวของฉันคิดแต่เรื่องของอูจูและดงจิน เนื้อเพลงของเพลงนี้เลยให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปค่ะ

‘มันจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ทีละนิดในทุก ๆ วัน คุณเฝ้ามองฉันอยู่ ฉันต้องผ่านมันไปให้ได้ ฉันจะมีความสุขให้มากขึ้น’

ฉันรู้สึกสะดุดกับเนื้อเพลงท่อนนี้ค่ะ เมื่อคุณเริ่มรักใครสักคน คุณไม่ได้เพียงแค่อยากให้เขาเป็นคนที่ทำให้คุณมีความสุข แต่คุณเองก็อยากทำให้ตัวเองมีความสุขมากขึ้นด้วย เพราะคุณรู้ว่าเขากำลังเฝ้ามองคุณอยู่ ฉันคิดว่าแนวคิดแบบนี้ค่อนข้างเหมือนกับที่อูจูและดงจินรู้สึกเลยค่ะ และสิ่งที่ตัวละครทั้งสองทำเพื่อให้มีความสุขมากขึ้นก็ไม่ใช่อะไรที่เลิศหรูเลย แค่ได้ทานมื้อเที่ยงด้วยกันในร้านอาหารใหม่ ๆ ก็พอแล้ว ในฐานะผู้กำกับ ฉันอยากมอบประสบการณ์การเห็นคุณค่าในทุก ๆ ความธรรมดาของชีวิตหลังจากที่ตกหลุมรักใครสักคนไปแล้วให้กับผู้ชม นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ฉันคิดว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่เหมาะกับซีรีส์ของเราค่ะ ฉันได้โทรหาผู้แต่งเพลงนี้ในทันทีและขอเขาว่าจะ “ใช้เพลงนี้ให้ได้ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม”

และเนื่องจากเพลงต้นฉบับนั้นโด่งดังและมีเอกลักษณ์มาก ฉันเลยคิดว่าเสียงร้องที่โดดเด่นจะช่วยให้เวอร์ชั่นนี้เทียบเท่ากับต้นฉบับได้ ฉันดีใจและรู้สึกขอบคุณมากที่เราได้ Wonstein มาร้องเพลงเวอร์ชั่นนี้ให้ค่ะ

Lee Sung Kyung Kim Young Kwang Call It Love Still

ในงานแถลงข่าว คุณบอกว่านักแสดงทั้ง 5 คนมีความแตกต่างกันมาก และเหล่านักแสดงที่มีเสน่ห์เป็นของตัวเองก็ได้มารวมตัวกันในซีรีส์เรื่อง Call It Love คุณคิดว่าจุดเด่นของพวกเขาคืออะไรคะ? หรือมีอะไรที่ทำให้พวกเขาแต่ละคนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองบ้าง ช่วยเล่าถึงการคัดเลือกนักแสดงให้ฟังสักนิดหนึ่งได้ไหมคะ?

ผู้กำกับอีกวังยอง: ฉันมีโอกาสได้พูดถึงดงจินและอูจูผ่านคำถามต่างนี้อยู่แล้ว ฉันเลยจะพูดถึงนักแสดงอีกสามคนในคำถามนี้นะคะ

ยุนจุน เป็นตัวละครที่เรียกได้ว่ามหัศจรรย์ที่สุดในซีรีส์เรื่องนี้เลยค่ะ เพราะเขาเป็นเพื่อนผู้ชายที่สมบูรณ์แบบเลย ฉันตั้งใจจะถ่ายทอดเรื่องราวธรรมดา ๆ ในซีรีส์เรื่องนี้ ฉันจึงไม่ค่อยแน่ใจถึงตัวละครนี้สักเท่าไร เพราะเขาอาจดูเป็นคนเพอร์เฟกต์ที่ไม่น่าจะมีอยู่จริง ๆ ในชีวิตจริงได้ แต่ในขณะเดียวกัน ฉันก็คิดว่าเราทุกคนก็คงมีเพื่อนสมัยเรียนสักคนที่อยู่ก้ำกึ่งระหว่างฐานะคนรักและฐานะเพื่อนค่ะ ฉันเอาแต่พูดซ้ำ ๆ ว่าฉันอยากเจอซองจุน และเมื่อฉันได้เจอเขาแล้ว ฉันก็รู้เลยว่าเขาจะเป็นคนที่ถ่ายทอดตัวละครจุนให้มีตัวตนขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะเพียงแค่นั่งเฉย ๆ เขาก็ดูเป็นคนที่เพอร์เฟกต์แม้จะมีท่าทางที่ดูเรียบง่ายค่ะ ฉันคิดว่าคนแบบนี้มีอยู่ในชีวิตจริงได้จริง ๆ ไม่ได้มีอยู่แค่ในซีรีส์ ฉันจึงบอกเขาว่าฉันต้องการตัวละครแบบนี้ และเขาก็สามารถถ่ายทอดตัวละครเพื่อนผู้แสนเพอร์เฟกต์ที่มีอยู่จริง ๆ ในชีวิตจริงออกมาได้อย่างไร้ที่ติเลยค่ะ เพื่อนผู้ชายผมหยักศกผู้อาศัยอยู่ในบ้านที่สมบูรณ์แบบและพูดจาตรงไปตรงมาสุด ๆ ถ้าเขาเป็นเพื่อนฉัน ฉันคงสับสนกับความรู้สึกที่มีต่อเขาแน่นอนค่ะ

คิมเยวอน เป็นคนน่ารักมาก ๆ คนหนึ่งเลยค่ะ ทุกถ้อยคำและวิธีการพูดของเธอดูน่ารักไปหมดเลย ฮเยซองเป็นตัวละครที่แสดงออกถึงบาดแผลในใจได้แตกต่างจากอูจูค่ะ และเพราะแบบนั้น ฉันจึงกังวลว่าเธอจะดูแสดงออกโอเวอร์ไปสักหน่อยไหมเมื่อเทียบกับตัวละครอื่น ๆ แต่ในตอนที่เรานัดอ่านบทกันครั้งแรก ความกังวลทั้งหมดของฉันหายไปในพริบตาเลยค่ะ ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ตาม คุณจะไม่สามารถไม่ชอบเธอได้เลยค่ะ ไม่ว่าเธอจะเอ่ยบทพูดไหนมันก็ดูจริงใจอย่างแท้จริงเลยค่ะ ฉันมีเพื่อนแบบนี้อยู่จริง ๆ ค่ะ แม้ว่าเราต่างก็มีเพื่อนหลาย ๆ แบบแตกต่างกันไป แต่ฉันมั่นใจว่าตัวละครนี้จะเป็นเพื่อนแบบที่เรามีจริง ๆ ในชีวิตค่ะ มีอยู่ฉากหนึ่งในตอนแรกของซีรีส์เรื่องนี้ที่ฮเยซองอกหักและร้องไห้อยู่ที่ห้องคาราโอเกะ ตอนที่ฉันดูคิมเยวอนแสดงฉากนั้น ฉันก็นึกย้อนไปถึงความทรงจำที่น่าอายของฉันเลยค่ะ เธอเป็นนักแสดงฝีมือดีที่สามารถถ่ายทอดความจริงที่น่าเศร้าใจออกมาได้น่ารักมากเลยค่ะ  

มินยอง เป็นตัวละครที่อาจจะไม่ได้รับความรักจากตัวละครอื่น ๆ ในเรื่องสักเท่าไรเพราะเธอเป็นคนที่หักอกของดงจินและทำให้เขาเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แต่ฉันอยากให้เธอเป็นคนที่น่าตกหลุมรักมากจนดงจินไม่สามารถมูฟออนไปไหนได้หลังจากที่เลิกกันไปแล้ว ฉันอยากให้เธอเป็นคนที่ทำให้ทุกคนต้องตกหลุมรักเพื่อให้ผู้ชมเข้าใจถึงความรู้สึกของดงจิน ครั้งแรกที่ฉันเจออันฮียอน ในขณะที่กำลังคิดว่าเธอสวยมาก ๆ ฉันก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่อยากจะปกป้องเธอด้วยเพราะเธอเหมือนหมาน้อยที่ถูกทอดทิ้งไว้ท่ามกลางสายฝน ถ้าเป็นเธอคนนี้ ดงจินคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรักเธอ และเกลียดเธอไม่ลงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันค่อนข้างมั่นใจจึงโน้มน้าวอันฮียอนให้มารับบทนี้ค่ะ เธอมีฉากที่แสดงคนเดียวหลายฉาก ซึ่งเธอจะดูอ้างว้างมาก ๆ ถ้าคุณดูซีรีส์เรื่องนี้ไปเรื่อย ๆ ฉันมั่นใจว่าคุณจะลองมองสิ่งต่าง ๆ ในมุมมองของเธอและจะเริ่มรู้สึกเห็นใจเธอแน่นอนค่ะ

ปกติแล้วคุณอีซองคยอง เป็นนักแสดงที่มักจะถ่ายทอดบทบาทที่กระปรี้ประเปร่าและร่าเริงเสมอ ทำไมคุณถึงเลือกเธอมารับบทอูจู ?

ผู้กำกับอีกวังยอง: มีฉากมากมายในบทที่อูจูไม่สามารถยับยั้งคำพูดของเธอ และกลับพูดสิ่งเหล่านั้นออกมาทั้งหมดอย่างตรงไปตรงมา เธอไม่กล้าที่จะยืนหยัดเพื่อตัวของเธอเอง แต่สำหรับคนที่เธอชอบ เธอก็มักที่จะพ่นวาจาที่รุนแรงออกมาโดยไม่ทันได้คิด ฉันหวังว่าด้านนี้ของเธอจะไม่ทำให้เธอดูแย่จนเกินไป แต่กลับอยากให้เป็นด้านที่มีเสน่ห์มากกว่า และซองคยองเองก็ทำให้เหนือความคาดหมายของฉันไปอีกขั้น เมื่อความสดใสร่าเริงของเธอต้องมาพบกับคำพูดแข็งกระด้างเหล่านั้น มันยิ่งเปรียบเสมือนเป็นการสร้างการผสมผสานในรูปแบบใหม่ทั้งหมด ฉันเห็นฉากเดียวกันหลายสิบครั้งเมื่อตัดต่อ แต่ทุกครั้งที่ฉันเห็นฉากเหล่านั้น ฉันก็มักจะเผลอหลุดหัวเราะออกมา ในเรื่องเธอคิดว่าตัวเธอเองเป็นคนที่สิ้นหวังที่สุดในโลก และตัดขาดตัวเองออกจากโลกใบนี้ไปแล้ว แต่เมื่อมีคนเห็นเธอในด้านที่ซุ่มซ่ามและน่ารัก ก็มักจะอยากทำอะไรกับเธอสักอย่างมากกว่านี้ 

เรายังมีฉากมากมายเกี่ยวกับอูจูที่ก้าวไปข้างหน้าจากทัศนคติที่ไม่แยแสต่อชีวิตของเธอ และมุ่งหน้าไปหาดงจินเพื่อทำลายกำแพงที่เธอก่อไว้ ซึ่งซองคยองเองก็สามารถแสดงออกมาได้สมบูรณ์แบบในกระบวนการเหล่านั้น และฉันก็เชื่อมั่นว่าคุณจะต้องสนุกกับมันอย่างแน่นอน 

Lee Sung Kyung Call It Love Still

เห็นว่านี่เป็นครั้งที่ 2 ที่คุณผู้กำกับอีกวังยองได้ร่วมงานกับคุณคิมยองกวัง ซึ่ง การถ่ายทอดความโดดเดี่ยวของคุณคิมยองกวังที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นที่พูดถึงอย่างมาก คุณนึกถึงคุณคิมยองกวังให้มารับบทนี้ตั้งแต่แรกเลยหรือไม่ ?

ผู้กำกับอีกวังยอง: ฉันคิดเสมอว่ายองกวังมีอารมณ์ของความรู้สึกโดดเดี่ยวภายใต้ภาพลักษณ์สนุกสนานที่เขามี ฉันก็ยังไม่รู้เหตุผลที่แน่ชัดว่าทำไมฉันถึงคิดแบบนั้น เขาดูสง่างามนะคะ แต่ทำไมฉันถึงรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเหงาจากเขา? นั่นแหละถึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเหมาะกับบทบาทของดงจิน 

ฉันไม่รู้ว่ามันอาจเป็นเพราะฉันเคยร่วมงานกับเขามาก่อนหรือเปล่า แต่ฉันก็ค่อนข้างไว้วางใจเขาเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยบิดเบือนตัวตนของเขาเวลาที่เขาแสดงเลยค่ะ เขามักจะดำดิ่งลงไปในตัวละครนั้น ๆ เพื่อทำความเข้าใจบทบาทอย่างแท้จริง ดังนั้นแทนที่ฉันจะให้คำแนะนำกับเขา ฉันกลับคุยกับเขาเกี่ยวกับความรู้สึกที่ดงจินมีมากกว่า ฉันมั่นใจเลยว่าตัวละครของดงจินที่ยองกวังสร้างมันขึ้นมา จะทำให้เรื่องราวมันสอดรับกับอารมณ์ความรู้สึกของเขา ในทางกลับกันเมื่อมีฉากที่ฉันต้องการแสดงออกมาในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง ยองกวังก็จะพิจารณาและคอยช่วยฉันสร้างฉากต่าง ๆ เหล่านั้นขึ้นมา หรือเมื่อใดก็ตามที่ฉันรู้สึกไม่มั่นใจในบางเรื่อง ฉันก็มักจะออกไปจากหน้าเซ็ตโดยคิดว่า “ดงจินจะต้องแก้ไขปัญหาได้!”  

Kim Young Kwang Call It Love Still

คิดว่าฉากไหนที่ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละคร อูจู และ ดงจิน ออกมาได้อย่างดีบ้าง ?

ผู้กำกับอีกวังยอง: ในขณะที่ฉันพยายามอย่างเต็มที่ในทุก ๆ ฉาก ทุก ๆ ตอน เพื่อที่จะถ่ายทอดบุคลิก และ อารมณ์ของตัวละครถ้าจะให้เลือกล่ะก็ สำหรับอูจูนั้น จะมีอยู่ฉากหนึ่งใน EP แรก ที่เธอกำลังเดินถือร่ม หลังจากได้ทราบข่าวการจากไปของพ่อผ่านทางข้อความ ซึ่งในฉากนี้หากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่า อูจูเป็นเพียงคนเดียวที่เดินสวนทางกับคนอื่น ๆ ฉันคิดว่าอูจูเป็นตัวละครที่จมปลักอยู่กับอดีตและเดินถอยหลังแทนที่จะก้าวไปข้างหน้าค่ะ ดังนั้นตอนที่เราถ่ายทำฉากนี้ ทุกคนต่างเดินไปในทางเดียวกัน และ คุณซองคยองได้เดินสวนกลับมาค่ะ แม้ว่าจะเป็นฉากที่ถ่ายทำยาก แต่ฉันชอบฉันนี้มากเพราะเป็นฉากที่แสดงให้เห็นว่าอูจูไม่สามารถก้าวไปข้างหน้า และแทบจะไม่สามารถดำเนินชีวิตของเธอต่อไปได้เลย

ส่วนฉากที่ฉันชอบสำหรับตัวละครดงจิน เป็นฉากเงาในห้องโมเต็ล ใน EP.5 ค่ะ เพราะว่าเขาเลิกกับแฟนในสถานที่จัดแคมปิ้ง ทำให้เขาไม่มีความกล้าที่จะไปแคมปิ้ง ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่เขาชอบในชีวิต ดังนั้นเขาจึงมีชีวิตต่อไปพร้อมกับบาดแผลที่ยังไม่ได้รักษา แต่ว่าเงาของเขาเหมือนกับปีเตอร์แพนที่ไปออกทริปแทนตัวเขา การออกจากที่ทำงาน ไปแคมปิ้ง และดื่มเบียร์ เป็นสิ่งที่ดงจินต้องการ แต่เมื่อเงากำลังดื่มเบียร์ เก้าอี้ที่เขากำลังนั่งกลับหักลงเข้าสู่โลกความเป็นจริงที่เขากำลังนอนลงบนเตียงในโมเต็ลโดยที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ฉันคิดว่าฉากนี้เป็นฉากที่ถ่ายทอดความเป็นจริงที่โดดเดี่ยวและอ้างว้างของดงจินออกมาได้เป็นอย่างดี

ฉันคิดว่าฉากแรกใน EP แรก ได้แทนเมสเสจที่ฉันต้องการจะสื่อผ่านซีรีส์เรื่องนี้ออกมาอย่างครอบคลุมเลยค่ะ มันเริ่มต้นด้วยแผ่นหลังอันโดดเดี่ยวของดงจินซึ่งอยู่ที่สำนักงานอันว่างเปล่าของเขาก่อนพระอาทิตย์จะขึ้น และเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น เขาก็ทำงาน และเมื่อพระอาทิตย์ตก เขาก็ยังคงทำงานอยู่ที่ทำงาน สำหรับฉากนี้ฉันต้องการที่จะวาดภาพส่ิงที่ผู้ชมจะได้เห็นในเรื่องนี้ เรื่องราวของคนใดคนหนึ่งในบรรดาพวกเรานี่แหละค่ะ ที่กำลังดำเนินชีวิตต่อไป และกำลังอดทนยืดหยัดต่อไป และฉันคิดว่าเสียงบรรยายของคุณพัคฮาซอนเข้ากับฉากนี้อย่างสมบูรณ์แบบเลยค่ะ

ในตอนแรกของซีรีส์เรื่องนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องราวโรแมนติกระหว่างคนสองคนถูกเรื่องของการแก้แค้นนำพามาพบกัน แต่เมื่อมองลึกลงไป กลับกลายเป็นว่าทั้งหมดเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการปลอบโยนใจและความเห็นอกเห็นใจของตัวละครต่าง ๆ ที่มีอดีตอันแสนเจ็บปวด จนกระทั่งท้ายที่สุดพวกเขาก็เข้าใจซึ่งกันและกัน เมสเสจที่คุณต้องการจะสื่อถึงผู้ชมผ่านเรื่องราวเหล่านี้คืออะไร?

ผู้กำกับอีกวังยอง: การใช้ชีวิตพร้อมกับบาดแผลทางจิตใจและความเปลี่ยวเหงา แม้ว่ามันจะเป็นเช่นนั้น แต่เราก็ยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไปค่ะ ฉันอยากที่จะบอกกับผู้ชมรวมไปถึงตัวฉันเองว่าเราเองต่างก็ใช้ชีวิตแบบนี้ การที่อูจูได้พบกับดงจิน และ ดงจินได้พบกับอูจู แล้วพวกเขาก้าวไปข้างหน้า เรายังสามารถก้าวต่อไปได้แม้จะเป็นก้าวเล็ก ๆ ก็ตาม นี่คือคำปลอบใจและความหวังที่ฉันอยากจะส่งมอบให้กับผู้ชมค่ะ

Director Lee Kwangyoung Call It Love 2

สามารถรับชมซีรีส์ Call It Love ทุกวันพุธ​ ทาง Disney+ Hotstar

ชมคลิปสัมภาษณ์นักแสดงนำ อีซองคยอง – คิมยองกวัง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความสนิทเป็นเหตุ! ‘คิมยองกวัง – อีซองคยอง’ เล่าเบื้องหลังซีรีส์ Call It Love ที่พยายามเว้นระยะห่างกันในกองถ่าย เพื่อคีพคาแรคเตอร์ตัวละคร

Call It Love ซีรีส์ใหม่ Disney+ ‘คิมยองกวัง-อีซองคยอง’ กับเรื่องราวโรแมนติกที่ค่อย ๆ ซึมซาบจนเรียกว่ารัก

ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage
 : facebook.com/korseries
Twitter
 : twitter.com/korseries
Website
 : korseries.com
Youtube 
: Korseries

ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡


Korupdate






เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    Cookies Details

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อการตลาด

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก