Mask Girl เป็นผลงานออริจินัลซีรีส์ จาก Netflix ที่กำลังเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่สตรีมเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดอย่างเข้มข้น และต่างเจ็บปวดไปกับเรื่องราวชีวิตของตัวละคร คิมโมมี ที่ถ่ายทอดผ่านนักแสดงนำ 3 คน อย่าง อีฮันบยอล นานะ และ โกฮยอนจอง
แน่นอนว่าหนึ่งในพาร์ทที่ผู้ชมพูดถึงเป็นอย่างมากในซีรีส์ Mask Girl เห็นจะเป็น พาร์ทของตัวละคร คิมโมมี ที่รับบทโดย นานะ หลังจากที่เข้าคุก ในตอนที่ 6 ของเรื่อง ซึ่งการนำเสนอของพาร์ทนี้แตกต่างไปจากส่วนอื่นของเรื่องอย่างเห็นได้ชัด ที่มีการใช้ภาพสีขาวดำ ในการนำเสนอตลอดช่วงอายุของตัวละครนี้
Korseries ได้ถามถึงแนวคิดเบื้องหลังการนำเสนอฉากนี้ กับ ผู้กำกับคิมยงฮุน ผ่านเซสชันสัมภาษณ์พิเศษ ซึ่ง ผู้กำกับอธิบายถึงสิ่งที่ต้องการจะสื่อผ่านภาพขาวดำในซีรีส์ ว่า
“ผมคิดว่าความรู้สึกของคิมโมมีเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลังการตายของตัวละครชุนแอ เพราะหลังจากนั้นเธอจึงได้พาลูกไปฝากไว้กับแม่ แล้วมอบตัวเข้าไปอยู่ในคุก ตอนที่เข้าไปในคุกนั้น คิมโมมีได้ละทิ้งความปรารถนาต่าง ๆ อย่างความต้องการที่จะเป็นคนสวยไปหมดแล้ว
ผมอยากถ่ายทอดภาพของการละทิ้งความความปรารถนาต่าง ๆ เหล่านี้ด้วยการตัดสีสันทั้งหมดออกไป พอวางภาพไว้เช่นนั้น ก็เลยปรับเสียงปรับดนตรีลดลงให้เรียบง่ายขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ผมใช้เพื่อแสดงถึงความรู้สึกในใจของคิมโมมี ณ ตอนนั้นครับ”
แม้ผู้ชมหลายคนจะต่างพอรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่ถูกถ่ายทอดผ่านการนำเสนอฉากขาวดำนี้ในเรื่อง แต่การตอบคำถามนี้ ก็ยิ่งทำให้เห็นถึงการใส่ใจในรายละเอียดในการถ่ายทอดอารมณ์ ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเสียงดนตรีประกอบฉากในพาร์ทดังกล่าว ที่ทำให้ยิ่งเข้าใจถึงความรู้สึกของตัวละครคิมโมมียิ่งกว่าเดิม
ปัจจุบัน Mask Girl ได้ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในตาราง TOP10 ซีรีส์ที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษ ของ Netflix โดยมียอดรับชมกว่า 7.4 ล้านวิว ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา สามารถรับชมซีรีส์ความยาวทั้งหมด 7 ตอน ได้ที่ Netflix
บทความที่เกี่ยวข้อง
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡
Photo Courtesy of Netflix Cr. Jun Hea-sun/Netflix © 2023