เคยรู้สึกมั้ย…ว่าความสำเร็จครั้งแรกของเรา กลับกลายเป็นเงาที่ตามหลอกตัวเอง? ซีรีส์ดราม่าเข้มข้นเรื่องใหม่ Our Movie พร้อมพาผู้ชมไปสำรวจตัวละคร อีเจฮา (รับบทโดย นัมกุงมิน) ผู้กำกับหนุ่มที่เคยแจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่องแรกจนเป็นที่ยอมรับในวงการ แต่กลับหายตัวไปจากวงการหนังโดยไร้ผลงานต่อเนื่องนานถึง 5 ปีเต็ม
ใครหลายคนอาจมองว่าเขาเป็นอัจฉริยะทางภาพยนตร์ที่หายจากวงการไปเฉย ๆ แต่แท้จริงแล้ว อีเจฮากำลังเผชิญกับ “ภาวะตกต่ำในปีที่ 2” ที่เรียกว่า Sophomore Jinx (소포모어 징크스) หรือ Sophomore Slump (소포모어 슬럼프) ซึ่งคือสภาวะที่เกิดขึ้นหลังจากความสำเร็จครั้งแรก รวมถึงความสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิตอย่างการจากไปของพ่อผู้เป็นผู้กำกับชื่อดัง ก็ทำให้เขายิ่งถอยห่างจากทุกอย่างที่เคยรัก
จนกระทั่ง 5 ปีให้หลัง รุ่นพี่ในวงการได้ยื่นข้อเสนอให้เขากลับมาทำหนังอีกครั้ง กับโปรเจกต์ รีเมคภาพยนตร์เรื่อง รักบริสุทธิ์ ผลงานสุดคลาสสิกของพ่อเขาเอง การตัดสินใจครั้งนี้นำเขาไปพบกับ อีดาอึม (รับบทโดย จอนยอบิน) ที่ปรึกษาของภาพยนตร์ และเป็นผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่มีมุมมองชีวิตเฉียบคมเกินใคร การร่วมงานของทั้งสองคนไม่เพียงแต่ทำให้หนังค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่าง แต่ยังกลายเป็นการเยียวยาทั้งสองคนอย่างเงียบ ๆ
ภาวะตกต่ำในปีที่ 2 คืออะไร?
ภาวะตกต่ำในปีที่ 2 (Sophomore Slump) คือช่วงที่ใครบางคนประสบความสำเร็จหรือมีพลังเต็มเปี่ยมในปีแรก แต่กลับรู้สึก หมดไฟ, ไม่มั่นใจหรือ กดดันตัวเอง ในปีถัดมา โดยภาวะนี้ไม่ได้เกิดเพราะคนคนนั้นไม่มีความสามารถ แต่มักเกิดจากแรงคาดหวัง ทั้งจากคนอื่นและจากตัวเอง
ความคาดหวังว่า ต้องทำให้ได้ดีเหมือนเดิม หรือ ดีกว่าเดิม โดยที่ตัวเราอาจยังไม่รู้ว่าแท้จริงต้องการอะไรกันแน่ ซึ่งอาจเกิดขึ้นในบริบทอื่น ๆ ของชีวิตเช่นกันอย่าง การเรียน ชีวิตคู่ หรือชีวิตแต่งงาน ปีที่ 2 จึงกลายเป็นช่วงเวลาที่คนจำนวนมากเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง ไม่ใช่เพราะไม่เก่งแต่เพราะ กลัวจะไม่ใช่คนแบบเดิมอีกแล้ว
จะก้าวข้ามภาวะตกต่ำในปีที่ 2 ได้ยังไง?
สิ่งที่ยากที่สุดของ ภาวะตกต่ำในปีที่ 2 (Sophomore Slump) ไม่ใช่การแก้ไขงานให้ดีขึ้น แต่คือการเรียนรู้ว่า เรายังเป็นเราอยู่ แม้จะไม่เปล่งประกายเหมือนวันแรก เริ่มต้นจากยอมรับความจริง ทำความเข้าใจตัวเองมากขึ้น และเห็นคุณค่าในตัวเอง เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่คนเราจะรู้สึกไม่เก่งในตอนเริ่มโต เปลี่ยนวิธีคิดโดย
• ตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ให้ตัวเอง เพื่อค่อย ๆ สร้างความสำเร็จ
เพื่อสร้างความรู้สึกสำเร็จในแต่ละวัน เช่น อ่านหนังสือหนึ่งบท ออกกำลังกาย 15 นาที หรือจัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อย สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้จะสะสมเป็นแรงผลักดันใหญ่ในภายหลัง
• หาคนที่ไว้ใจได้เพื่อพูดคุยหรือระบาย
ไม่จำเป็นต้องมีคำแนะนำเสมอไป แค่มีใครสักคนรับฟังโดยไม่ตัดสิน ก็เพียงพอที่จะทำให้ใจเราเบาขึ้น และเข้าใจตัวเองมากขึ้นผ่านการพูดออกมา
• อย่ากดดันตัวเองจากการเปรียบเทียบกับคนอื่นมากเกินไป
เส้นทางของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจดูเหมือนไปไกลแล้ว แต่คุณเองก็มีจังหวะของตัวเองที่มีคุณค่าในแบบที่เป็นอยู่
• ให้เวลากับตัวเองในการเรียนรู้และปรับตัว
มันโอเคที่จะยังไม่เข้าใจทุกอย่างตอนนี้ ไม่มีใคร เก่งตั้งแต่วันแรกของการโตเป็นผู้ใหญ่ ความผิดพลาดคือส่วนหนึ่งของการเรียนรู้
จำไว้ว่าความสับสน ความเหนื่อยล้า หรือการตั้งคำถามกับตัวเองในการทำอะไรสักอย่าง ล้วนเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อผ่านมันมาได้ จะมองย้อนกลับไปด้วยความภูมิใจว่า นี่แหละคือช่วงเวลาที่ได้รู้จักตัวเองมากขึ้นจริง ๆ เพราะถ้าหากเราล้มเลิกที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองรักก็จะไม่มีทางพัฒนาขึ้น และหมายถึงจะไม่มีโอกาสได้ทำสิ่งนี้อีกต่อไป
คนที่เวลาหยุดนิ่ง กับ คนที่เวลากำลังนับถอยหลัง
อีดาอึม ผู้ป่วยระยะสุดท้าย ที่เข้ามาเป็นที่ปรึกษาบทภาพยนตร์เรื่องใหม่ เธอคือคนที่มองโลกในมุมของเวลาที่เหลืออยู่น้อยลงทุกที เพราะรู้ตัวมาตั้งแต่เด็กว่าตัวเองจะต้องป่วยหนัก เธอจึงไม่อยากใช้ชีวิตอยู่แต่ในโรงพยาบาล อาชีพนักแสดงจึงกลายเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เธอได้ลองใช้ชีวิตในหลากหลายบทบาท ได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำ และได้เป็นในสิ่งที่อยากเป็น
เมื่อรู้ว่าภาพยนตร์ของ เจฮา ว่าด้วยเรื่องราวของผู้ป่วยระยะสุดท้าย ซึ่งคล้ายกับตัวเธออย่างมาก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธออยากร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ และสุดท้ายเธอกลับกลายเป็นเหมือนกระจกเงาที่สะท้อนให้ เจฮา เห็นตัวเอง ในมุมของคนที่ยังมีเวลาอีกมากแต่กลับไม่กล้าใช้มันอย่างเต็มที่
เมื่อทั้งสองมาเจอกันไม่ได้มีแค่เรื่องของการทำหนัง แต่มีบางอย่างที่ค่อย ๆ ซึมลึกลงไปในใจ เจฮา ทำให้เขาเริ่มกลับมาสนใจสิ่งเล็ก ๆ ในชีวิตอีกครั้งทั้งรอยยิ้ม ความรัก และความทรงจำที่เคยเจ็บปวดในอดีต
ถ้าคุณกำลังอยู่ในช่วงที่รู้สึกหมดไฟ ท้อแท้ หรือกำลังตั้งคำถามกับเส้นทางของตัวเองในปีที่สองของความฝัน Our Movie อาจเป็นซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่ควรดู ไม่ใช่แค่เพราะเล่าถึงการกลับมาทำหนัง แต่เพราะซีรีส์เล่าถึงการกลับมาทำในสิ่งที่ชอบอีกครั้ง ในวันที่เราเกือบลืมไปแล้วว่าทำไมถึงเริ่มต้นตั้งแต่แรก
คอซีรีส์สามารถดู Our Movie โดยสตรีมซับไทยได้ทาง Disney+ Hotstar ทุกวันศุกร์ – เสาร์ เวลา 21.30 น.
บทความที่เกี่ยวข้อง
“Our Movie” ซีรีส์รักปนเศร้าที่เตรียมพาผู้ชมเสียน้ำตา พร้อมเคมีชวนจับตาของ นัมกุงมิน – จอนยอบิน
‘นัมกุงมิน’ คัมแบ็กบทผู้กำกับหมดไฟ พร้อมฮีลใจไปกับ ‘จอนยอบิน’ นักแสดงผู้ป่วยระยะสุดท้าย ใน Our Movie
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡