จักรวาล ซีรีส์เกาหลี กำลังเติบโต แนวโน้มใหม่ที่ทำให้เรื่องราวต่อเนื่องมากขึ้น โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาวงการ ซีรีส์เกาหลี ได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ทั้งในแง่ของเรื่องราวที่แปลกใหม่ งานโปรดักชัน และการขยายขอบเขตไปสู่ตลาดสากล นอกจากจะมีการสร้างภาคต่อหรือรีเมกแล้ว ปัจจุบันยังมีแนวโน้มที่ซีรีส์หลายเรื่องกำลังสร้าง “จักรวาลของตัวเอง” (K-Drama Universe) มีตัวละคร, เหตุการณ์ และโลกที่เชื่อมโยงกัน ไม่ได้เป็นเรื่องราวที่จบในตัวอีกต่อไป คล้ายกับจักรวาลภาพยนตร์อย่าง Marvel หรือ DC Universe
เดิมที ซีรีส์เกาหลี มักเล่าเรื่องราวแบบจบในตัวเอง แต่ในช่วงหลังมานี้ มีทั้งซีรีส์รวมถึงภาพยนตร์หลายเรื่องที่เลือกใช้แนวทางเชื่อมโยงกัน สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมที่ชื่นชอบ Easter Eggs หรือการเชื่อมโยงรายละเอียดระหว่างเรื่อง ทำให้โลกของซีรีส์ดูมีมิติมากขึ้น และสามารถต่อยอดไปสู่ ภาคต่อ หรือ สปินออฟ คอซีรีส์จะพามาสำรวจกันว่ามี ซีรีส์เกาหลี เรื่องไหนบ้างที่ได้สร้างจักรวาลของตัวเอง!
Kingdom ซีซั่น 1,2 — Kingdom: Ashin of the North

Kingdom ซีซั่น 1,2
บอกเล่าเรื่องราวในยุคโชซอนเมื่อ องค์รัชทายาทอีชาง (รับบทโดย จูจีฮุน) สงสัยถึงอาการป่วยขององค์พระราชา เพราะพระมเหสีไม่อนุญาตให้องค์รัชทายาทเข้าไปในตำหนักของพระราชบิดาของพระองค์เอง องค์รัชทายาทจึงตัดสินใจปลอมตัวออกไปนอกพระราชวัง และพยายามค้นหาความจริงที่อยู่เบื้องหลังอาการป่วยของพระราชบิดา ก่อนจะพบว่ามีการปกปิดเรื่องการแพร่ระบาดของโรคที่เปลี่ยนผู้คนให้กลายเป็นซอมบี้กระหายเลือด พระองค์จึงร่วมมือกับ ซอบี (รับบทโดย แบดูนา) แพทย์สาวสามัญชนที่คอยช่วยเหลือชาวบ้านจากเรื่องราวร้ายแรงครั้งนี้ และนอกจากนี้องค์ราชทายาทยังต้องต่อสู้กับ โจฮักจู (รับบทโดย รยูซึงรยง) ข้าหลวงในพระราชวังที่คอยชักใยแผนการชั่วร้ายเพื่อจะได้มาซึ่งอำนาจเหนือกว่าราชวงศ์
สำหรับซีซั่น 2 จะดำเนินเรื่องราวต่อจากซีซั่นแรก องค์รัชทายาทอีชาง ที่ยังคงต่อสู้กับกองทัพซอมบี้เพื่อปกป้องประชาชน แต่ก็ได้ตัดสินใจเดินทางกลับไปยังเมืองฮันยางเพื่อค้นหาต้นตอของโรคระบาด ในขณะที่ โจฮักจู กระหายอำนาจมากขึ้นเรื่อย ๆ ความขัดแย้งทางการเมืองและการแย่งชิงอำนาจจึงเกิดขึ้น ด้าน ซอบี (รับบทโดย แบดูนา) ยังคงพยายามค้นหาสมุนไพรคืนชีพ ซีซั่นนี้เผยเบื้องหลังของโรคระบาดมากขึ้น และปูพื้นให้กับตัวละคร อาชิน (รับบทโดย จอนจีฮยอน) ที่จะกลายเป็นตัวละครหลักในภาคแยก Kingdom: Ashin of the North
Kingdom: Ashin of the North
ตอนพิเศษที่ต่อยอดจากจักรวาลของซีรีส์ Kingdom เล่าถึงจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในซีรีส์ โดยจะพาผู้ชมเจาะลึกลงสู่เรื่องราวของตัวละคร อาชิน และจุดกำเนิดของการค้นพบสมุนไพรคืนชีพ ซึ่งเรื่องราวของ อาชิน มีความยาวและซับซ้อนมาก เนื่องจากครอบคลุมด้วยไทม์ไลน์ที่ยาวนาน ทำให้ นักเขียนบทคิมอึนฮี ตัดสินใจทำแยกออกเป็นตอนพิเศษ แทนที่จะรวมเป็นซีซั่น 3 เพื่อความสะดวกในการรับชม ถือเป็นการเปิดจักรวาลกับเรื่องราวที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน และจากความลึกซึ้งนี้ทำให้จักรวาลของ Kingdom น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
Kingdom แฝงไปด้วยประเด็นการเมือง, การฉ้อฉลในวังหลวง และความเหลื่อมล้ำทางสังคม ที่สามารถเชื่อมโยงกับปัจจุบันได้อย่างน่าทึ่ง ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีอะไรมากกว่าแค่การเอาชีวิตรอดจากซอมบี้ แม้ปัจจุบันยังไม่มีรายงานถึงความคืบหน้าของการสร้างซีซั่น 3 แต่ก็มีแฟน ๆ จำนวนมากที่รอคอยการกลับมาของซอมบี้ในยุคโชซอน สำหรับสาย K-Zombie ที่ยังไม่ได้ดู อย่าลืมมาตามเก็บจักรวาล Kingdom กันนะคะ พร้อมรอลุ้นว่าจักรวาลนี้มีจะต่อหรือไม่
- รับชมทั้งหมดได้ทาง Netflix
Tale Of The Nine Tailed — Tale Of The Nine Tailed 1938
Tale Of The Nine Tailed
เล่าเรื่องราวของ อียอน (รับบทโดย อีดงอุค) อดีตเจ้านายแห่งแพคตูแดกัน วิญญาณแห่งขุนเขาผู้ควบคุมลมและฝนได้ เขาคือจิ้งจอก 9 หาง ที่มีอายุมาแล้วกว่า 1000 ปี เฝ้ารอหญิงคนรักให้หวนกลับมาหาเขาอีกครั้งในชาติภพอื่น แต่แล้วเขาก็ได้พบกับ นัมจีอา (รับบทโดย โจโบอา) PD รายการโทรทัศน์ที่ทำเกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติและสิ่งลี้ลับ ที่มีความปราณาแรงกล้าในการที่จะตามหาพ่อแม่ที่หายไปจากอุบัติเหตุลึกลับที่ถนนยออูโกแกเมื่อวัยเด็ก แต่ด้วยเพราะความแปลกของ อียอน ทำให้ นัมจีอา สงสัยและเริ่มสืบหาความจริง จนมันนำเธอเข้าไปสู่โลกอีกใบที่แตกต่างจากโลกที่เธอรู้จัก แต่เพราะความต้องการที่อยากจะตามหาพ่อแม่เธอจึงจะถอยหลังกลับไม่ได้ โดยไม่รู้เลยว่าการกลับมาเจอกันอีกครั้งของทั้ง 2 คนจะเป็นตัวปลุกสิ่งชั่วร้ายที่เคยหลับไหลให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งอย่าง อีมูกี (รับบทโดย อีแทรี) งูยักษ์ในตำนานของเกาหลี ซึ่งในครั้งนี้มันดันแบ่งเศษเสี้ยวนึงไว้ในตัวของ นัมจีอา อีกด้วย และ อียอน ยังมีน้องชายลูกครึ่งจิ้งจอกกับมนุษย์ อายุ 600 ปี อย่างอีรัง (รับบทโดย คิมบอม) ที่เกลียดชังมนุษย์มากกว่าใคร นอกจากความเข้มข้นของเนื้อเรื่องทั้งหมดนี้ ซีรีส์ยังพาผู้ชมดำดิ่งสู่ตำนานพื้นบ้านของเกาหลีในรูปแบบที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้น ทำให้ Tale of the Nine Tailed เป็นซีรีส์ที่สายแฟนตาซีไม่ควรพลาด
- รับชมได้ทาง Viu , Prime Video และ Netflix
Tale Of The Nine Tailed 1938
สำหรับภาคแยก Tale Of The Nine Tailed 1938 ยกระดับความเข้มข้นของเรื่องราวขึ้นไปอีกขั้น ซีรีส์เลือกที่เล่าเรื่องราวของ อียอน (รับบทโดย อีดงอุค) ที่ได้ย้อนกลับไปในปี 1938 และได้พบกับผู้คนที่คุ้นเคย อย่างเช่น อีรัง (รับบทโดย คิมบอม) น้องชายของเขา ที่มีความสัมพันธ์แตกต่างจากในยุคปัจจุบันมาก อียอน พยายามหาทางกลับไปสู่ช่วงเวลาปัจจุบัน แต่ระหว่างนั้นเขาก็ได้พบกับเพื่อนเก่าที่ได้แปรเปลี่ยนไปเป็นศัตรู นอกจากจะมีอุปสรรคมากมายที่ขัดขวางไม่ให้เขากลับไปหาคนรักในยุคปัจจุบันแล้ว อียอน ยังต้องเผชิญกับบางสิ่งที่มุ่งมั่นจะพรากทุกคนที่เขารักให้จากไป ซึ่งจุดเด่นของภาคนี้คือ บรรยากาศย้อนยุค และตัวละครใหม่ที่มาพร้อมปมความสัมพันธ์สุดซับซ้อนจากอดีต
โดยในอดีตปี 1938 เป็นยุคที่เกาหลีอยู่ใต้การปกครองจักรวรรดิญี่ปุ่น ทำให้ภาคนี้ซีรีส์ไม่ได้เน้นไปที่ความสัมพันธ์กับนางเอกอย่าง นัมจีอา (รับบทโดย โจโบอา) แต่ผู้ชมจะได้เห็นความรักระหว่างพี่น้องกับ อีรัง แทน และเข้าใจเรื่องราวความเป็นมาก่อนที่จะบาดหมางกัน รวมถึงมิตรและศัตรูในอดีต ฮงจู (รับบทโดย คิมโซยอน) หนึ่งในสี่เทพเจ้าแห่งขุนเขา และอดีตเทพเจ้าแห่งขุนเขาทางเหนือ มูยอง (รับบทโดย รยูคยองซู) อีกทั้งยังมีการเล่าถึงสัตว์ประหลาดจากตำนานพื้นบ้านของเกาหลีและญี่ปุ่นมากขึ้น ทำให้ซีรีส์ภาคนี้น่าติดตามอีกด้วย
ในตอนจบของ Tale Of The Nine Tailed 1938 หลังจาก End credit และข้อความขอบคุณผู้ชมได้เผยภาพของ อียอน ที่กล่าวขึ้นมาว่า “ที่นี่คือโชซอนงั้นเหรอ?” ก่อนที่จะแสดงให้เห็นว่าเขากำลังถูกไล่ล่าจากชายสองคนในยุคโชซอน แฟน ๆ ต่างคาดเดาว่า หรือจะเป็นการบอกใบ้ถึงซีซั่น 3 อย่างไรก็ตามทาง tvN ได้ออกมายืนยันว่า “ขณะนี้พวกเขากำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการสร้างซีซั่น 3 ของซีรีส์ แต่ยังไม่มีการตัดสินใจหรือประกาศที่แน่นอน” สำหรับคอซีรีส์ที่ติดตามเรื่องราวของจิ้งจอกเก้าหางอาจต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าการผจญภัยครั้งใหม่ในยุคโชซอนจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่
- รับชมได้ทาง Prime Video
The Uncanny Counter 1 — The Uncanny Counter 2 : Counter Punch
The Uncanny Counter 1
ซีรีส์แนวแฟนตาซี-ทริลเลอร์ อ้างอิงเรื่องราวจากต้นฉบับที่เป็นเว็บตูนชื่อเรื่องเดียวกัน ซึ่งจะเล่าเรื่องราวของเหล่าวิญญาณปีศาจร้ายที่ลงมาบนโลกมนุษย์เพื่อที่จะใช้ชีวิตอันเป็นนิรันดร์ และ กลุ่ม ‘เคาน์เตอร์’ นักล่าวิญญาณด้วยความสามารถพิเศษ พวกเขาปลอมตัวเป็นพนักงานในร้านขายก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่งเพื่อคอยตามสังเกต และจับตัววิญญาณร้ายที่แฝงเข้ามา โดยมี โซมุน (รับบทโดย โจบยองกยู) ชายหนุ่มผู้มีอายุน้อยที่สุดในกลุ่มเคาน์เตอร์ หลังจากที่เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างปริศนาในวัยเด็ก เขาก็ได้กลายมาเป็นบุคคลสำคัญในกลุ่มร่วมด้วยกับ โดฮานา (รับบทโดย คิมเซจอง), กาโมทัก (รับบทโดย ยูจุนซัง) และ ชูแมอ๊ก (รับบทโดย ยอมฮเยรัน) สมาชิกทั้งหมดในกลุ่มแต่ละคนนั้นมีความสามารถในการตามจับปีศาจที่ต่างกันคือ
- โซมุน พลังเปิดพื้นที่ของยุงได้ตามต้องการ
- โดฮานา พลังในการอ่านความทรงจำ และพลังตรวจจับปีศาจได้ในรัศมีหลาย 100 กิโลเมตร
- กาโมทัก พละกำลังมหาศาล และเชี่ยวชาญด้านการต่อสู้
- ชูแมอ๊ก พลังในการรักษาเยียวยา
The Uncanny Counter 2 : Counter Punch
จากความสำเร็จของซีซั่นแรกทำให้ซีซั่น 2 ขยายเนื้อเรื่องไปยังตัวละครใหม่อย่าง นาจองบก (รับบทโดย ยูอินซู) ผู้มีความสามารถพิเศษด้านการดมกลิ่นที่ช่วยให้หาตำแหน่งของปีศาจอย่างแม่นยำ ครั้งนี้กลับมาพร้อมกับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าเดิมกับแผนร้ายที่อันตรายของปีศาจระดับสูง พิลกวัง (รับบทโดย คังกียอง), เกลลี่ (รับบทโดย คิมฮีออรา) และ หวองย็อก (รับบทโดย คิมฮยอนอุค) กลุ่มปีศาจได้รวมตัวกันเพื่อโค่นล้มเหล่าเคาน์เตอร์ และพวกมันไม่ใช่แค่ปีศาจธรรมดา แต่บางตัวยังสามารถดูดกลืนพลังของเคาน์เตอร์ได้ ทำให้การต่อสู้ครั้งนี้เป็นศึกที่ดุเดือดกว่าครั้งไหน ๆ
แม้ว่าทาง OCN และ Netflix จะยังไม่ได้ยืนยันถึงซีซั่น 3 อย่างเป็นทางการ แต่ตอนจบของซีซั่น 2 ยังมีช่องให้ขยายเรื่องราวต่อได้ หากไม่ได้สร้างซีซั่น 3 โดยตรง อีกหนึ่งทางเลือกคือ การสร้างสปินออฟเช่น เล่าเรื่องราวของเคาน์เตอร์ยุคแรก หรือ การต่อสู้กับปีศาจประเทศอื่น เพราะจากการเผยให้เห็นในซีซั่น 2 ว่าเคาน์เตอร์ไม่ได้มีแค่ในประเทศเกาหลี หากผู้สร้างต้องการขยายจักรวาลให้ใหญ่ขึ้น จากกระแส K-Drama Universe ที่กำลังนิยมในซีรีส์หลาย ๆ เรื่อง The Uncanny Counter 3 ก็อาจจะมีโอกาสเกิดขึ้น และหากมีประกาศเป็นทางการคอซีรีส์ไม่พลาดจะรีบมาอัพเดทข่าวสารเพิ่มเติมกันค่ะ
- รับชมทั้งหมดได้ทาง Netflix
Moving — Light Shop
จักรวาลของนักเขียน คังฟูล เป็นหนึ่งในจักรวาลที่น่าสนใจของวงการบันเทิงเกาหลี คังฟูล (Kang Full) นักเขียนเว็บตูนที่มีชื่อเสียงด้วยผลงานที่มีเอกลักษณ์ในเรื่องราวที่ลึกซึ้ง และซับซ้อน ผลงานของเขาหลายเรื่องยังถูกนำมาสร้างเป็นซีรีส์รวมถึงมีการเชื่อมโยงกันจนเกิดเป็น “จักรวาลคังฟูล” ที่หลาย ๆ คนเรียกกัน โดยมี Moving และ Light Shop ผลงานของนักเขียน คังฟูล ที่ถูกนำมาสร้างเป็นซีรีส์เรียบร้อยแล้ว และมีแนวโน้มว่างานอื่น ๆ จะถูกนำมาสร้างต่อในอนาคตเพื่อขยายจักรวาลนี้ออกไปอีกด้วย
Moving
Moving เป็นซีรีส์เกาหลีแนวแอ็กชัน-ไซไฟ นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มคนที่มีพลังพิเศษ หรือซูเปอร์ฮีโร่ของเกาหลี ซึ่งต้องหลบซ่อนจากรัฐบาล และองค์กรลึกลับที่พยายามไล่ล่าพวกเขา ในอดีตหน่วยงานลับของรัฐบาลเคยใช้พลังพิเศษของพวกเขาเป็นอาวุธ แต่เมื่อโครงการถูกยกเลิกพวกเขาต้องใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อน ทำให้พ่อแม่ที่เคยเป็นสายลับของรัฐบาลเกาหลีต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องลูก ๆ นำแสดงโดย รยูซึงรยง ฮันฮโยจู โจอินซอง สิ่งที่ทำให้ซีรีส์ Moving น่าสนใจไม่ใช่แค่การต่อสู้ด้วยพลังเหนือธรรมชาติ แต่ยังสะท้อนถึงความรักของพ่อแม่ที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องลูก ๆ โดยมีพลังที่ถูกส่งต่อผ่านรุ่นอีกด้วย
รุ่นพ่อแม่ (อดีตสายลับของรัฐบาล)
• คิมดูชิก – สามารถบินได้ เคลื่อนไหวกลางอากาศได้อย่างอิสระ และมีความสามารถพิเศษด้านการต่อสู้
• อีมีฮยอน – มีประสาทสัมผัสไว มองเห็นได้ไกลและแม่นยำเกินกว่ามนุษย์ทั่วไป
• จอนกยโด – ควบคุมไฟฟ้า สามารถชาร์จพลังและใช้ไฟฟ้าเป็นอาวุธ
• ฟรานก์ – พลังฟื้นตัว ร่างกายสามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็วแม้ได้รับบาดเจ็บรุนแรง
รุ่นลูก (นักเรียนที่พยายามใช้ชีวิตปกติ)
• คิมบงซอก – ได้รับพลังของพ่อ (บินได้) และแม่ (ประสาทสัมผัสพิเศษ)
• จางฮุยซู (โกยุนจอง) – สามารถรักษาบาดแผลตัวเองได้อย่างรวดเร็วเหมือนฟรานก์
• อีคังฮุน– มีความแข็งแกร่งและเร็วเกินกว่าคนทั่วไป
ซึ่งได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า Moving จะมีซีซั่น 2 โดยการประกาศนี้เกิดขึ้นในงาน Disney Content Showcase 2024 ที่ประเทศสิงคโปร์ แต่สำหรับวันออกอากาศของ Moving ซีซั่น 2 ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ
Light Shop
Light Shop เป็นซีรีส์เกาหลีแนวลึกลับ-สยองขวัญจากเว็บตูนของนักเขียน คังฟูล เช่นกัน เล่าเรื่องราวของคนเป็นและคนตายที่โลกของพวกเขาบรรจบกันที่ร้านขายโคมไฟลึกลับ โดยจะเล่าเรื่องราวของกลุ่มคนได้เผชิญกับบาดแผลทางจิตใจอันโหดร้ายในอดีตและต่างเชื่อมโยงกัน โดยมี จองวอนยอง (รับบทโดย จูจีฮุน) เป็นผู้ดูแลร้านขายโคมไฟ ด้วยเรื่องราวสะเทือนอารมณ์ของแต่ละตัวละครทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม รวมถึงทำให้ผู้ชมตั้งคำถามเกี่ยวกับความลึกลับของร้านโคมไฟแห่งนี้อีกด้วย
ปมของแต่ละตัวละครใน Light Shop สะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างโลกของคนเป็นและวิญญาณ ในการเผชิญหน้ากับอดีตและแก้ไขปัญหาที่ค้างคาใจ โดยในตอนจบของ Light Shop ได้สร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมที่ชื่นชอบ จักรวาลคังฟูล เป็นอย่างมาก จากการปรากฏตัวของ จางฮีซู (รับบทโดย โกยุนจอง) หลัง End Credit รวมถึง ยังทัก (รับบทโดย พัคจองมิน) ตัวละครจาก Timing เว็บตูนอีกเรื่องของนักเขียน คังฟูล ที่มีพลังในการหยุดเวลา ทำให้ผู้ชมต่างพากันคาดเดาถึงความเชื่อมโยงของ 3 เรื่องนี้ อีกทั้งตัวละคร ยังซองซิก (รับบทโดย แบซองอู) ตำรวจนักสืบที่ตามหาคนร้ายใน Light Shop ดูเหมือนจะเป็นนักสืบที่ได้พลังมาจากยมทูตคนก่อนในเรื่อง Apartment อีกหนึ่งเว็บตูนใน จักรวาลคังฟูล อีกด้วย
- รับชมทั้งหมดได้ทาง Disney+ Hotstar
Stanger ซีซั่น 1,2 — Dongjae: The Good or The Bastard
Stanger ซีซั่น 1,2
สำหรับซีซั่นแรกปูเรื่องเกี่ยวกับ อัยการฮวังชีม๊ก (รับบทโดย โจซึงอู) เขาได้รับการผ่าตัดสมองมาตั้งแต่เด็กทำให้เขาได้รับผลกระทบต่อร่างกายของเขาคือ ไร้ความรู้สึก ทำให้เขาดูเป็นคนเยือกเย็นและโดดเดี่ยว วันนึงเขาได้ไปพบศพของพัคมูซองที่ถูกฆาตกรรมทำให้เขาต้องสืบหาสาเหตุการตายที่ไปเชื่อมโยงการรับสินบนของอัยการในสำนักงานเขา และสำนักงานตำรวจ อัยการฮวังชีม๊ก ได้พบ ฮันยอจิน (รับบทโดย แบดูนา) ทั้งคู่ก็ได้ทำงานด้วยกัน โดยการทำงานของพวกเขาทำให้เขาต้องพบกับการรับสินบนและเบื้องหลังของสำนักงานอัยการอีกมากมาย ซีรีส์เรื่องนี้เต็มไปด้วยบทสนทนาชั้นเชิงของตัวละคร รวมถึงฉากสืบสวนที่ดูแล้วรู้สึกตึงเครียดสุด ๆ แถมยังได้เห็นการเมืองในแวดวงอัยการที่สมจริงอีกด้วย
โดยซีซั่น 2 ยังคงติดตามการทำงานของ อัยการฮวังชีม๊กในการตามล่าหาอาชญากร เเต่บทบาทหน้าที่ของเหล่าตัวละครหลักในซีซั่น 1 อาจมีการปรับเปลี่ยนไปอย่าง อัยการฮวังชีม๊ก ได้ถูกย้ายมาทำงานกับ อูเเทฮา (รับบทโดย ชเวมูซอง) หัวหน้าอัยการแผนกกฎหมายอาชญากรรมผู้ต้องการอำนาจเบ็ดเสร็จในการพิจารณาคดี ในหน่วยกฎหมายคดีอาญาที่สำนักงานอัยการสูงสุด ขณะที่ ฮันยอจิน ที่ได้เลื่อนขั้นเป็นร้อยโท ถูกย้ายมาทำงานภายใต้คำสั่งของ ชเวบิท (รับบทโดย จอนฮเยจิน) หัวหน้าหน่วยการปฏิรูปการสืบสวน ที่สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ พร้อมกับตัวละครที่ยังคงน่าจับตา ซอดงแจ (รับบทโดย อีจุนฮยอก) และด้วยความน่าสนใจนี้ทำให้เกิดภาคแยกDongjae: The Good or The Bastard ที่มุ่งเน้นเรื่องราวของตัวละคร ซอดงแจ อัยการประจำสำนักงานอัยการเขตชองจู
- รับชมได้ทาง Netflix
Dongjae: The Good or The Bastard
หลังจากสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมใน Stranger ทั้งสองซีซั่น อีจุนฮยอก กลับมาอีกครั้งในบทบาท อัยการซอดงแจ ที่จะพาผู้ชมดำดิ่งสู่มุมมองของตัวละครที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความลึกลับ ซอดงแจ เป็นอัยการผู้ทะเยอทะยานที่รู้จักกันดีในฐานะคนเจ้าเล่ห์ เจ้าปัญหา แต่กลับมีไหวพริบและความสามารถที่ไม่ธรรมดา ซีรีส์ภาคแยกนี้จะสำรวจด้านที่ซับซ้อนของเขาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น พร้อมตั้งคำถามว่า “เขาเป็นคนดี หรือเป็นคนเลวกันแน่?” ด้วยบทบาทที่เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม และการเล่าเรื่องที่เฉียบคมในสไตล์เดียวกับ Stranger การเดินทางของอัยการจอมกะล่อน ครั้งนี้จะพาผู้ชมไปสู่ความจริงแบบไหน ต้องติดตามใน Dongjae: The Good or The Bad Bastard
- รับชมได้ทาง TrueVisions NOW
No Gain No Love — Spice Up Our Love
No Gain No Love
No Gain No Love ซีรีส์โรแมนติก-คอมเมดี้เรื่องใหม่ จากช่อง tvN ถ่ายทอดเรื่องราวความรักยุคใหม่ และการไม่อยากเป็นฝ่ายเสียเปรียบทั้งในด้านความรัก เงินทอง และการงาน บอกเล่าความสัมพันธ์แบบไม่ยอมเสียประโยชน์ของ ซนแฮยอง (รับบทโดย ชินมินอา) ที่ตัดสินใจจัดงานแต่งงานปลอม ๆ ขึ้นมาเพื่อไม่ให้ตัวเองเสียเปรียบพลาดการเลื่อนตำแหน่งในบริษัทและ คิมจีอุค (รับบทโดย คิมยองแด) ชายหนุ่มพนักงานร้านสะดวกซื้อแถวบ้าน ที่กลายมาเป็นเจ้าบ่าวกำมะลอเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา สะท้อนถึงความเป็นจริงของชีวิตและความสัมพันธ์ในสังคมปัจจุบัน ทำให้ผู้ชมสามารถเข้าใจตัวละครจากการผสมผสานระหว่างความโรแมนติกและคอมเมดี้อย่างลงตัว
เสริมทัพด้วยทายาทรุ่นที่สามของตระกูลแชบอลและเป็น CEO ของบริษัทที่ แฮยอง ทำงานอยู่อย่าง บกกยูฮยอน (รับบทโดย อีซังอี) พร้อมด้วย นัมจายอน (รับบทโดย ฮันจีฮยอน) นักเขียนนิยายออนไลน์เรท R ยอดนิยม ซึ่งเป็นทั้งรูมเมทและเพื่อนสนิทที่เหมือนคนในครอบครัวของ แฮยอง ซึ่งทั้งสองจะกลายเป็นคู่หลักในภาคแยก Spice Up Our Love
Spice Up Our Love
Spice Up Our Love มาจาก ‘เมนูแซ่บท่านประธาน’ ชื่อนิยายที่ตัวละคร นัมจายอน เป็นคนแต่ง โดย เนื้อหาหลักของซีรีส์ ภาคแยกนี้ จะว่าด้วยเรื่องราวโรแมนติกแฟนตาซีสุดป่วน ที่ นัมจายอน นักเขียนนิยายติดเรทตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในร่างนางเอกในนิยาย 19+ ที่ตัวเองเขียน และพบกับ คังฮาจุน พระเอกในนิยายสุดฮอตในเรื่องที่หน้าตาเหมือน บกกยูฮยอน อีกด้วย และซีรีส์นี้มีความยาวเพียง 2 ตอนเท่านั้น
- รับชมทั้งหมดได้ทาง Prime Video
Hospital Playlist ซีซั่น 1,2 — Resident Playbook
Hospital Playlist ซีซั่น 1,2
ซีรีส์แนวการแพทย์ ฝีมือนักเขียนบทและผู้กำกับซีรีส์ตระกูล Reply บอกเล่าเรื่องราวของแพทย์ 5 คนซึ่งจบมาจากมหาวิทยาลัยด้านการแพทย์จากที่เดียวกันในปี 1999 และทั้งหมดยังคงเป็นเพื่อนกันมาจนถึงปัจจุบันรวมถึงทำงานในโรงพยาบาลแห่งเดียวกันอีกด้วย สมาชิกคนแรก อิคจุน (รับบทโดย โจจองซอก) ศาสตราจารย์นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดทางเดินน้ำดีและตับอ่อน จองวอน (รับบทโดย ยูยอนซอก) ศาสตราจารย์นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านกุมารศัลยศาสตร์ จุนฮวาน (รับบทโดย จองคยองโฮ) ศาสตราจารย์นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดทรวงอก ซอกฮยอง (รับบทโดย คิมแดมยอง) ศาสตราจารย์นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา และสมาชิกคนสุดท้าย ซงฮวา (รับบทโดย จอนมีโด) ศาสตราจารย์แพทย์หญิงเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดระบบประสาท กับเรื่องราวความวุ่นวายที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นหัวใจของแก๊ง 5 หมอ
สำหรับซีซั่น 2 จะมุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์และปัญหาส่วนตัวของตัวละครมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับการเติบโต การเผชิญกับความสูญเสีย และการตัดสินใจที่ยากลำบาก รวมถึงการนำเสนอการรักษาที่ท้าทายมากขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความก้าวหน้าของวงการแพทย์อีกด้วย เราจะได้เห็นการเจริญเติบโตของตัวละครหลักทั้ง 5 คน และตัวละครใหม่ที่เข้ามาเสริมสร้างความสัมพันธ์ในกลุ่มทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้น
Resident Playbook
ซีรีส์สปินออฟของ Hospital Playlist บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของกลุ่มแพทย์ประจำบ้านปีแรก ที่ต้องเผชิญความกดดันและอุปสรรคในเส้นทางสู่การเป็นแพทย์ที่มีความสามารถ ณ โรงพยาบาลยุลเจ สาขาจงโน โออียอง (รับบทโดย โกยุนจอง) แพทย์ประจำบ้านปีหนึ่งที่มีบุคลิกสดใสร่าเริง แต่ภายใต้ความมั่นใจนั้น เธอเองก็ต้องเผชิญกับความกดดันและความกลัวในการเป็นหมอที่ต้องรับผิดชอบชีวิตคนไข้ ขณะที่ ออมแจอิล (รับบทโดย คังยูซอก) หนุ่มอบอุ่นผู้มีทัศนคติใจเย็นและเป็นเสาหลักให้เพื่อน ๆ ในแผนก แต่ลึก ๆ แล้วเขากลับเป็นคนที่คาดหวังในตัวเองสูงและต้องต่อสู้กับความไม่มั่นใจภายใน พวกเขาต้องจัดการกับสถานการณ์สุดท้าทาย ทั้งในห้องผ่าตัดและชีวิตส่วนตัว มิตรภาพ ความรัก และความฝันของพวกเขาจะถูกทดสอบท่ามกลางโลกของวงการแพทย์ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ออนแอร์ตอนแรกวันที่ 12 เมษายน ใครตามเก็บจักรวาล Hospital Playlist อยู่ห้ามพลาด!
- รับชมทั้งหมดได้ทาง Netflix
จักรวาลซีรีส์เกาหลีจะไปไกลแค่ไหน?
การสร้าง K-Drama Universe ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับวงการบันเทิงเกาหลี แต่ตอนนี้เริ่มมีความจริงจังมากขึ้น ซีรีส์หลายเรื่องไม่ได้ถูกสร้างให้จบในตัวอีกต่อไป แต่มีการวางแผนต่อยอดไปยัง ภาคต่อ, สปินออฟ และการขยายจักรวาล เพื่อดึงดูดแฟน ๆ ให้อยู่กับเรื่องราวไปนานขึ้น แม้ตอนนี้วงการซีรีส์เกาหลีจะยังไม่ได้สร้างจักรวาลขนาดใหญ่แบบ Marvel Cinematic Universe แต่แนวโน้มของการสร้างจักรวาล K-Drama กำลังชัดเจนขึ้น และอาจเป็นก้าวสำคัญในการขยายอิทธิพลของซีรีส์เกาหลีในตลาดโลก
ในอนาคต เราอาจได้เห็นจากซีรีส์เกาหลีจะพัฒนาไปสู่การมีจักรวาลที่ใหญ่ขึ้นและซับซ้อนขึ้น ซึ่งจะทำให้วงการ K-Drama ก้าวไปอีกขั้น และสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้ชมทั่วโลก คอซีรีส์มารอติดตาม จักรวาลซีรีส์เกาหลี ในหลากหลายเรื่องไปด้วยกันนะคะ
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡