ประเด็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง นักแสดง คิมซูฮยอน และ คิมแซรน ในช่วงที่เธอยังเป็นผู้เยาว์ ยังคงเป็นที่ถกเถียง และมีการออกมาตอบโต้กันอย่างต่อเนื่อง โดย คิมเซอี จากช่องยูทูบ Garosero Research Institute ซึ่งเป็นตัวแทนของครอบครัวคิมแซรน ได้เปิดเผยบันทึกเสียงที่อ้างว่าคิมแซรนเคยบันทึกไว้ และยังอ้างว่าผู้ที่ให้ข้อมูลถูกทำร้ายร่างกาย ขณะที่ ยูทูบเบอร์อีจินโฮ และทางฝั่งของคิมซูฮยอน ได้ออกมาโต้แย้งว่าบันทึกเสียงดังกล่าวนั้นสร้างขึ้นด้วย AI
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา คิมเซอี พร้อมด้วย ทนายความบูจีซอก จากสำนักงานกฎหมายบูยู ซึ่งเป็นตัวแทนทางกฎหมายของครอบครัวคิมแซรน ได้จัดงานแถลงข่าว ซึ่งนับเป็นการออกมาเคลื่อนไหวหลังเวลาผ่านไปนานร่วมเดือน คิมเซอีและทนายความบู กล่าวว่างานดังกล่าว เป็นการแถลงข่าวเกี่ยวกับอาชญากรรมร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับคิมซูฮยอน ซึ่งเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก
โดยในงานแถลงข่าวพวกเขาได้เปิดเผยบันทึกเสียงการสนทนาที่อ้างว่า คิมแซรน คุยกับคนรู้จักที่ร้าน Starbucks แห่งหนึ่งในนิวเจอร์ซีย์เป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมง เมื่อวันที่ 10 มกราคมปีนี้ ในบันทึกเสียงนั้นเป็นเสียงของคิมแซรน ที่พูดกับคนรู้จักว่าเธอคบกับคิมซูฮยอนมาตั้งแต่ยังเป็นผู้เยาว์ และมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกันครั้งแรกเมื่ออยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทนายความบู กล่าวว่า ทางครอบครัวผู้ล่วงลับได้ยื่นฟ้องคิมซูฮยอนในข้อหาละเมิดกฎหมายคุ้มครองเด็กและข้อหาให้การเท็จ และ ผู้ให้ข้อมูลถูกทำร้ายด้วยอาวุธจนเกือบเสียชีวิต ซึ่งได้ร้องขอให้มีการสอบสวนแล้ว
หลังการแถลงข่าวจบลง ข้อสงสัยเกี่ยวกับการปลอมแปลงบันทึกเสียงได้ถูกหยิบยกมาพูดถึงบนโลกออนไลน์ และภาพถ่ายการถูกทำร้ายร่างกายของผู้ให้ข้อมูลนั้นกลับสามารถค้นหาได้ผ่านทาง Google โดย อีจินโฮและอึนฮยอนจัง ผู้ดำเนินรายการช่องยูทูบ ‘장사의 신‘ ได้จัดงานแถลงข่าวในสถานที่เดียวกันตอบโต้ว่า “เบื้องหลังเหตุการณ์ที่คิมเซอีออกมาแฉนั้น มี ‘นักต้มตุ๋นจากนิวเจอร์ซีย์’ มาเกี่ยวข้อง ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นนักต้มตุ๋นที่หลอกลวงเงินด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การหลอกลวงทางโทรศัพท์ (Voice phishing) และ บุคคลนี้ยังใช้ชื่อปลอมต่าง ๆ และเปลี่ยนอาชีพไปเรื่อย ๆ เพื่อทำการหลอกลวง
ทางยูทูบเบอร์ อีจินโฮ กล่าวว่า “เมื่อประมาณวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา เราได้คุยโทรศัพท์กับนักต้มตุ๋นจากนิวเจอร์ซีย์อีกครั้ง และเมื่อวันที่ 16 เมษายน เราได้รับไฟล์บันทึกเสียงของคิมแซรนที่เขาส่งมา มันน่าตกใจมาก เสียงเหมือนคิมแซรนมาก แม้แต่คนใกล้ชิดของคิมแซรนก็ตัดสินว่ามันเป็นเสียงของเธอ บุคคลนี้ยังส่งบันทึกเสียงการสนทนาที่เขาคุยกับคนใน Garosero Research Institute รวมถึงคิมเซอีมาให้ด้วย ซึ่งมีเนื้อหาว่าคิมเซอีพยายามเดินทางไปอเมริกาเพื่อพบนักต้มตุ๋นจากนิวเจอร์ซีย์เมื่อประมาณวันที่ 13-14 เมษายนที่ผ่านมา”
อีจินโฮ ยังได้เปิดเผยรายงานการตรวจสอบที่ระบุว่าไฟล์เสียงและวิดีโอของคิมแซรนที่นักต้มตุ๋นจากนิวเจอร์ซีย์ส่งมานั้นถูกปลอมแปลง โดยเผยว่า
“จากการวิเคราะห์พบว่าบันทึกเสียงดังกล่าวสร้างขึ้นโดยใช้เสียงที่สร้างจาก AI โดยมีบุคคลที่สาม ซึ่งก็คือ นักต้มตุ๋นจากนิวเจอร์ซีย์ เพิ่มเสียงของตัวเองและเสียงรบกวนเข้าไปอีกครั้ง เทคโนโลยี AI พัฒนาไปถึงระดับที่น่าตกใจ” และ “บุคคลนี้ไม่เพียงแต่ติดต่อผมเท่านั้น แต่ยังพยายามติดต่อทางฝั่งคิมซูฮยอนเพื่อเรียกเงินจำนวนมาก ซึ่งทางฝั่งคิมซูฮยอนได้ตรวจสอบข้อมูลบันทึกเสียงแล้วและเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว
วิธีการหลอกลวงของบุคคลนี้ง่ายมาก เขาจะติดต่อผู้ที่เกี่ยวข้องแต่ละฝ่าย ฟังสิ่งที่พวกเขาต้องการ แล้วสร้างบันทึกเสียงตามนั้นส่งไปให้ เสียงที่สร้างขึ้นครั้งแรกเป็นเพียงการเลียนแบบอย่างหยาบ ๆ เท่านั้น จากนั้นเขาก็ใส่เนื้อหาจากรายการที่พูดถึงผู้ล่วงลับทีละน้อย และใช้คลิปวิดีโอ AI ของคิมแซรนและบันทึกเสียงของผู้เสียชีวิตที่เขาเปิดเผยเพื่อฝึกฝน AI จนกระทั่งเสียงมีความคล้ายคลึงกับคิมแซรนในระดับที่แม้แต่คนใกล้ชิดของผู้เสียชีวิตก็ยังหลงเชื่อ”
ทางฝั่งสำนักงานกฎหมาย LKB & Partners ซึ่งเป็นตัวแทนทางกฎหมายของเขา กล่าวถึงบันทึกเสียงของคิมแซรนที่ Garosero Research Institute อ้างถึงว่าเป็นการถูกปลอมแปลงขึ้นทั้งหมด และสร้างขึ้นด้วย AI หรือวิธีอื่น ๆ พร้อมเผยว่า บุคคลที่ส่งไฟล์ดังกล่าวให้กับ Garosero Research Institute เป็นนักต้มตุ๋นที่เคยติดต่อ Gold Medalist โดยอ้างว่า ‘มีไฟล์บันทึกเสียงที่คิมแซรนพูดถึงคิมซูฮยอน และเรียกเงิน โดยส่งไฟล์เสียงบางส่วนที่อ้างว่าเป็นเสียงของคิมแซรนมาให้ ซึ่งพบว่าเป็นของปลอม และเราไม่ได้ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องใด ๆ”
ทั้งนี้ทางตัวแทนทางกฎหมายของคิมซูฮยอน ยังยืนยันว่านี่เป็นการกุประเด็นอีกครั้งหนึ่ง ที่ Garosero Research Institute ทำขึ้นเพื่อก่อการร้ายทางไซเบอร์ หลังจากที่จนมุมด้วยข้อกล่าวหาต่าง ๆ เช่น การหมิ่นประมาทด้วยข้อมูลเท็จเกี่ยวกับคิมซูฮยอน การสะกดรอยตาม อาชญากรรมทางเพศในโลกไซเบอร์ และการปลอมแปลงหลักฐาน ซึ่งทางตัวแทนทางกฎหมายจะยื่นฟ้องและดำเนินคดีอาญาทันที
คิมแซรน ถูกพบเสียชีวิต เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากการจากไปของคิมแซรนไม่นาน ครอบครัวของคิมแซรนได้ออกมาเปิดเผยข้อมูล ผ่านทางยูทูบ Garosero Research Institute โดยอ้างว่า คิมแซรน คบหากับ คิมซูฮยอน เป็นเวลาประมาณ 6 ปี ตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งเป็นช่วงที่เธอยังเป็นผู้เยาว์ และได้เปิดเผยภาพถ่าย ข้อความ และจดหมายระหว่างทั้งสอง รวมไปถึง เอกสารแจ้งหนี้เป็นจำนวนเงิน 700 ล้านวอนที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุเมาแล้วขับของคิมแซรนกับทาง Gold Medalist ซึ่งในเวลาต่อมา คิมซูฮยอน ได้จัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม โดยเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้คบหากับผู้คิมแซรนในช่วงที่เธอยังเป็นผู้เยาว์ เขายังได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการปลอมแปลงข้อความ KakaoTalk ที่ครอบครัวผู้ล่วงลับเปิดเผย ซึ่งมีขึ้นในปี 2016 และ 2018 และได้ยื่นฟ้องแพ่งและอาญา รวมถึงการเรียกร้องค่าเสียหาย 12,000 ล้านวอนต่อครอบครัวผู้ล่วงลับและคิมเซอี
ติดตามข่าวสารและสิ่งที่น่าสนใจจากเราได้ที่
Facebook Fanpage : facebook.com/korseries
Twitter : twitter.com/korseries
Website : korseries.com
Youtube : Korseries
ขอความกรุณาไม่คัดลอก-ดัดแปลงบทความไปโพสต์ลงในเพจ-สำนักข่าวอื่น รวมถึงไม่นำบทความไปอ่านลง YouTube หรือแพลตฟอร์มใด ๆ โปรดช่วยแชร์เป็นลิ้งก์นะคะ ♡